ยธ.เผย'เมฆ รามา' สามีหยาดทิพย์ ซื้อเพนท์เฮ้าส์หรู 245 ล้านบาทผ่านนายหน้า ไม่เกี่ยวข้อง Forex-3D แต่รอผ่านด่านชี้แจงฐานะพยานเกี่ยวกับที่มาเงิน

สืบเนื่องจากกรณีที่คณะธุรกรรมหรือ บอร์ด ปปง. ได้ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีแชร์ FOREX-3D ซึ่งหนึ่งในจำนวนหลายการ คือ เพนท์เฮ้าส์หรูแห่งหนึ่ง อยู่ในซอยสุขุมวิท มูลค่า 245 ล้านบาท จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พบว่าเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าวได้มีการเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองจากนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครอยู่ในขณะนี้ เป็นนายรามา รัศมีรามา หรือ เมฆ (สามีของนักแสดงสาวชื่อดัง หยาดทิพย์ ราชปาล)นั้น

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566 แหล่งข่าวระดับสูงภายในกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า เพนท์เฮ้าส์แห่งนี้นายรามา ซื้อผ่านนายหน้าบริษัทเอกชนรายหนึ่งที่รับซื้อ-ขายเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์  โดยนายรามาไม่ได้ซื้อผ่านนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหาร Forex-3D โดยตรง ดังนั้น ดีเอสไอจึงไม่ได้ยึดอายัดไว้ แต่ส่งบัญชีทรัพย์ สินและรายชื่อของบริษัทเอกชนที่รับซื้อ-ขาย ไปให้ทาง ปปง. ดำเนินการตรวจสอบว่าเป็นการซื้อขายที่ถูกต้องหรือไม่ และเงินที่นายรามา นำไปซื้อเพนท์เฮ้าส์ มีที่มาอย่างไร บริษัทเอกชนที่รับฝากซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎ หมายหรือไม่ มีการจ่ายภาษีถูกต้อง มีการโอนถูกต้องหรือไม่ เป็นต้น. ทั้งนี้ ในส่วนปปง. ดำเนินการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินทางแพ่งหลังจากดีเอสไอส่งบัญชีรายการทรัพย์ สินต่างๆ ซึ่งปปง.จะขยายผลได้อีกว่า ทรัพย์สินต่างๆของนายรามา มีที่มาอย่างไร โดยเฉพาะเงินที่นายรามา นำไปซื้อเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าว ซึ่งอาจจะเป็นเงินที่มาจากการทำมาหาชีพสุจริตหรือไม่ ตรงนี้คือสาระสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นนายรามา ได้เคยเข้ามาชี้แจงกับพนัก งานสอบสวนคดีพิเศษถึงการได้มาของเพนท์เฮ้าส์ โดยเป็นการสอบปากคำจากคดีมูลฐาน Forex-3D รวมถึงยังได้มีการสอบปากคำบริษัทเอกชนที่รับซื้อ-ขายทรัพย์สินนั้น และเมื่อพนักงานสอบสวนสอบปากคำนายรามากับบริษัทเอกชนแห่งนี้เสร็จสิ้น ก็พบว่าทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ  ซึ่งหลังจากนั้นดีเอสไอได้ส่งรายการทรัพย์สินดังกล่าวให้ทาง ปปง.ดำเนินการตรวจสอบทางแพ่งต่อไป

แหล่งข่าวยธ. เผยอีกว่า คดีปปง.ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลแพ่ง สำหรับตามขั้นตอนทางศาล หากพบว่ามีความผิดก็จะมีคำสั่งยึดให้ทรัพย์สินตกเป็นของเเผ่นดิน และบุคคลดังกล่าวจะมีความผิดฐานฟอกเงิน แต่ถ้าไม่พบความผิด ศาลก็จะยกฟ้องและคืนทรัพย์สินให้กับเจ้าของต่อไป

ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวยอมรับว่า เดิมทีเมื่อปี 2563 สำนวนการสอบสวนคดีแชร์ Forex-3D อยู่ในการดำเนินการของคณะทำงานชุดแรก ซึ่งได้เคยมีการเรียกสอบปากคำนายรามา รวมถึงบริษัทเอกชนที่รับซื้อ-ขายเพนท์เฮ้าส์ดังกล่าวไปแล้ว แต่เนื่องด้วยไม่พบความเกี่ยวข้องนั้นเป็นข้อเท็จจริง จึงมีการส่งบัญชีทรัพย์สินให้ทาง ปปง. ดำเนินการตรวจสอบทางแพ่งอีกชั้นเพื่อให้ครอบคลุมข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร 

"หลังจากนี้จะเป็นการดำเนินคดีความผิดต่อเนื่องที่มาจากความผิดมูลฐานเดิม หรือคดีแชร์ Forex-3D โดยประเด็นการซื้อเพนท์เฮ้าส์ของนายรามา จะเข้าไปอยู่ในส่วนของสำนวนคดีฟอกเงิน หรือคดีพิเศษที่ 36/2563 ซึ่งเป็นเลขคดีเดียวกับ นายปราปต์ปฎล ตามที่ได้เเจ้งไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้นายรามา ได้เข้ามาให้การชี้แจงในฐานะพยานเกี่ยวกับการได้มาของทรัพย์สินดังกล่าวก่อน

อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบ สวนที่ทำสำนวนคดีฟอกเงิน ก็ยังคงมีการตรวจสอบทรัพย์สินรายการอื่นๆของอีกหลายบุคคลที่เล็งเห็นว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากนายอภิรักษ์และพวก โดยจะต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด"รรท. อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าว