กทม.เร่งรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด เข็มกระตุ้น-LAAB ป้องกันระบาดช่วงสงกรานต์ เตรียมวัคซีน-ยา-เตียงเพียงพอ
นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 ว่า จากการคาดการณ์กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อาจพบการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเน้นย้ำผู้ป่วยกลุ่ม 608 รับวัคซีนเข็มกระตุ้นนั้น ทางสำนักอนามัย (สนอ.) ได้เตรียมพร้อมดำเนินมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุขในพื้นที่และสื่อออนไลน์รณรงค์กระตุ้นเตือนและเน้นย้ำความร่วมมือประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มข้น เน้นการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นและภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) หากมีอาการป่วยทางเดินหายใจให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่ใกล้ชิดผู้อื่น ส่วนกลุ่ม 608 ที่ไม่ได้รับวัคซีน หรือภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) หากมีอาการป่วยให้รีบเข้ารับการรักษา สวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และขนส่งสาธารณะ สำหรับเด็กเล็กแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการป่วยทางเดินหายใจ
ขณะเดียวกันได้มุ่งเน้นมาตรการเชิงรุกติดตามและอำนวยความสะดวกการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่ม 608 โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือฉีดวัคซีนครบกำหนด ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทุกวันศุกร์ ระหว่างเวลา 13.00-15.00 น. รวมถึงให้บริการเชิงรุกที่บ้านกลุ่มผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งส่งเสริมให้กลุ่ม 608 ทุกราย ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่เข้ารับบริการตรวจรักษาโรคทั่วไปในคลินิกโรคเรื้อรังของศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นและภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ที่จุดบริการ นอกจากนั้น ประสานสถานดูแลผู้สูงอายุ (Nursing Home) ฉีดวัคซีนโควิด-19 และภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ให้ผู้สูงอายุที่อยู่ในความดูแล พร้อมทั้งประสานขอความร่วมมือศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานครรณรงค์ให้ผู้ปกครองนักเรียนตระหนักถึงความสำคัญของการพาบุตรหลานและสมาชิกในครอบครัวเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นที่ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม.ทั้ง 69 แห่ง
ด้านนางเลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า สำนักการแพทย์ (สนพ.) ได้ติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19อย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค ด้วยการฉีดวัคซีนโควิด-19 หรือฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป (LAAB) ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อพร้อมเปิดให้บริการฉีดวัคซีนชนิด Bivalent เพิ่มอีก 1 ชนิด ทั้งนี้ ได้สำรองวัคซีนโควิด-19 ทุกประเภทไว้อย่างเพียงพอ เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนในช่วงใกล้เทศกาลสงกรานต์ตลอดเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ ขณะเดียวกันได้เตรียมบุคลากรทางการแพทย์และทีมสหสาขาวิชาชีพสำหรับดูแลผู้ป่วยทุกระดับความรุนแรง หากพบผู้ป่วยขาดการดูแลรักษาให้ติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่ หรือศูนย์บริการสาธารณสุขในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ และหากต้องการรถฉุกเฉินทางการแพทย์ให้ประสานศูนย์เอราวัณ โทร.1669 เพื่อส่งต่อผู้ป่วยใน 6 โซนหลักทั่วกรุงเทพฯ โดยขณะนี้จำนวนเตียงในโรงพยาบาลหลัก รวมถึงยาต้านไวรัสยังมีเพียงพอรองรับผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพฯ นอกจากนั้น ยังร่วมกับ สนอ.ให้บริการเชิงรุกฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นกลุ่มเป้าหมาย ผู้ป่วย ผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียงในระบบเครือข่ายศูนย์ส่งต่อ เพื่อการพยาบาลต่อเนื่องที่บ้าน (BMA Homeward Referral) ในชุมชนรวมถึงกลุ่มผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ดูแลโดยผู้ช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุ (Care Giver) ที่ผ่านการอบรม และประสานอาสาสมัครสาธารณสุขสำรวจกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือยังรับวัคซีนไม่ครบ เพื่อรวมกลุ่มและนัดวันลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมาย
ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่ม 608 กลุ่มคนที่ทำงานกับผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง ควรฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน ส่วนบุคคลทั่วไปฉีดเข็มกระตุ้นได้ทุก 4-6 เดือน ตามความสมัครใจ สามารถรับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เบิกจ่ายตามสิทธิการรักษา ณ สถานพยาบาลที่คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครกำหนด โดยจองผ่านแอปพลิเคชั่น QueQ และ Walk inทั้ง 12 โรงพยาบาลสังกัด กทม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี