วันที่ 16 มี.ค.66 ที่ห้องประชุมท้าวมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ ซึ่งมีนายอำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งนี้ ในที่ประชุมนายแพทย์สุผล ตันติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2566 ซึ่งจังหวัดนครราชสีมามีผู้ป่วย 43 รายเสียชีวิต 1 ราย
สำหรับรายที่มีผู้เสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอสีคิ้ว เป็นผู้ป่วยเพศชายอายุ 51 ปี ไม่มีโรคประจำตัว อาชีพเป็นเกษตรกรรับจ้างทำสวนอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลลาดบัวขาวอำเภอสีคิ้วเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เข้ารับการรักษา 21 กุมภาพันธ์ 2566 และเสียชีวิตวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 แต่มีปัจจัยเสี่ยงมีประวัติการดื่มเหล้าเป็นประจำ
ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา จึงมอบให้พื้นที่ที่มีการระบาดของโรคจนทำให้มีผู้เสียชีวิตคือพื้นที่อำเภอสีคิ้ว ตั้งวอร์รูมและดำเนินการตามขั้นตอนในการขจัดลูกน้ำยุงลายขจัดลูกยุงตัวแก่ Big cleaning เพื่อไม่ให้เกิดลูกน้ำยุงลายในทุกหมู่บ้านรวมไปถึงมอบให้ทุกอำเภอได้ดำเนินการในลักษณะนี้ ถ้าหากมีผู้ป่วยไข้เลือดออกนอกจากนั้นขอให้ท้องที่ท้องถิ่นต่างๆ ได้ดำเนินการออกประกาศเพื่อดำเนินการควบคุมพื้นที่ให้เข้มข้นต่อไป และนำข้อมูลแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รับทราบ
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เปิดเวทีแสดงความคิดเห็นปัจจัยเสี่ยงในการแพร่ระบาดโรคไข้เลือดออก โดยให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องได้เสนอแนวทางแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมเพื่อลดความรุนแรงของโรคไข้เลือดออกในช่วงหน้าแล้งเพื่อให้หน้าฝนที่จะมาถึงไม่เกิดการระบาดของไข้เลือดออกเพราะวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้เกิดยุงลายคือการกำจัดลูกน้ำยุงลาย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี