เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2566 นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ให้การต้อนรับ นายนพดล ประเสริฐสุโข ประธานบริษัท โกลบอลเบสท์ อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนบริษัทจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการรับซื้อคาร์บอนเครดิตในนาข้าว เพื่อเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตร อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการยกระดับรายได้ให้กับชาวนา ซึ่งทางบริษัทมีเป้าหมายในการส่งเสริมการรับซื้อคาร์บอนเครดิตจากเกษตรกร โดยจะนำร่องรับซื้อในเขตนาชลประทานบนพื้นที่กว่า 2 ล้านไร่ในปีนี้
อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า กรมการข้าว ได้รับนโยบายจากท่าน ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการกำกับดูแลงานด้านข้าว ที่ถือเป็นสินค้าภาคการเกษตรที่สำคัญ โดยให้ตระหนักถึงความสำคัญของการรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดภาวะโลกร้อนที่กำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งกรมการข้าวได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและประโยชน์ของตลาดคาร์บอนเครดิตที่พี่น้องชาวนาจะได้รับ จึงได้มีการเข้ามาถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวนา เพื่อทำความเข้าใจถึงคำว่าคาร์บอนเครดิต และสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ที่พี่น้องชาวนาจะได้รับหากมีการทำคาร์บอนเครดิตขึ้น โดยขณะนี้กรมการข้าวได้มีการนำร่องพื้นที่ในการสร้างรายได้จากการทำคาร์บอนเครดิตให้ชาวนาในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นที่แรก
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวต่อไปว่า กรมการข้าว โดยสถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ ได้เข้ามาส่งเสริมและถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิตให้กับชาวนาในอำเภอเดิมบางนางบวช และอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นอำเภอนำร่องที่จะส่งเสริมและสร้างการรับรู้ถึงข้อดีและประโยชน์ที่ชาวนาจะได้รับจากการสร้างคาร์บอนเครดิต โดยได้นำองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งมาถ่ายทอดให้กับชาวนา โดยเป็นการนำเอาเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะเข้ามาใช้ในการปรับระดับพื้นที่นาด้วยระบบเลเซอร์ (Laser Land Levelling) ที่จะช่วยให้การจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการทำนาแบบเปียกสลับแห้งนั้นจะช่วยลดก๊าซมีเทนในดินที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ นอกจากนั้นหลังการเก็บเกี่ยวกรมการข้าวยังตั้งเป้าในการรณรงค์ให้ชาวนาลดการเผาตอซังข้าว
ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งจะเป็นอีกหนทางหนึ่งในการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสร้างคาร์บอนเครดิตให้ชาวนานำไปสร้างรายได้เสริมได้
นอกจากนี้ กรมการข้าวจะพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อบันทึกข้อมูลการทำนาแบบลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของชาวนา ให้สอดรับกับการส่งเสริมให้ชาวนาหันมาสนใจในการขายคาร์บอนเครดิต อีกทั้งจะมีการจัดฝึกอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงเรื่องคาร์บอนเครดิตให้กับศูนย์ข้าวชุมชนและชาวนาอาสาในเขตจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาต่อไปในอนาคตอีกด้วย
สำหรับชาวนาท่านใดที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมถึงการขายคาร์บอนเครดิตได้ที่ศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวและศูนย์วิจัยข้าวทั่วประเทศ สถาบันวิทยาศาสตร์ข้าวแห่งชาติ เว็บไซต์กรมการข้าว และ Facebook Fanpage Rice News Channel
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี