สตม.จับแก๊งจีน
หัวโจกแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลายพันคดี/มูลค่า8.5พันล.
บก.สส.สตม.แถลงรวบหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีน 2 คดีใหญ่หลอกลงทุนคริปโตฯ มูลค่าเสียหายกว่า 500 ล้านบาท-ปลอมเป็นจนท.รัฐ โทรหลอกประชาชนโอนเงินกว่า 8,500 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก.1 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐพงษ์แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม.พร้อมคณะ แถลงผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ห้วงระหว่างวันที่ 4-13 พฤษภาคม 2566 โดยสามารถจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต ทั้งสิ้น 1,272 ราย และคดีที่น่าสนใจ ได้แก่ รวบหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หลอกลงทุนคริปโตฯ ปลอม เสียหายกว่า 500 ล้านบาท และจับกุมหัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ข่มขู่เหยื่อจนสูญเงินกว่า 8,000 ล้านบาท
สำหรับการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนคริปโตฯ นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเมืองเซี่ยงไฮ้ ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน 3 รายสำคัญ ประกอบด้วย 1. MR.ZHOU หรือนายโจว (นามสมมติ) อายุ 35 ปี 2. MR.LI หรือ นายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี และ 3. MR.HUANG หรือนายหวง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ทั้งหมดสัญชาติจีน ซึ่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีในลักษณะฉ้อโกงประชาชนฯ เป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้ลงทุนบนแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นปลอม มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท ตั้งฐานอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา แล้วหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย
ต่อมา บก.สส.สตม.ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม.นำกำลัง สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย กระทั่งเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ชุดสืบสวนสืบทราบว่า MR.ZHOU หลบซ่อนอยู่ในคอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดฯ ดังกล่าว พบตัว MR.ZHOU บุคคลตามหมายจับและถูกเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยชั่วคราว จึวควบคุมตัวไว้พร้อมกับนำเข้าค้นภายในห้อง พบคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ บัตรเครดิต หลายรายการ คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สส.สตม.ดำเนินคดี
จากนั้นได้ประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสาธารณรัฐประชาชนจีน ขยายผลพบว่านอกจาก MR.ZHOU จะเป็นหนึ่งในหัวหน้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีคนจีนอีก 2 คน เป็นระดับผู้บริหารของแก๊งดังกล่าว คือ MR.LI หรือนายหลี่ และ MR.HUANG หรือนายหวง โดยทั้งสองเป็นบุคคลที่มีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน และหลบหนีเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า MR.LI พักอยู่ที่คอนโดฯ แห่งหนึ่ง ย่านทองหล่อ เมื่อเข้าตรวจสอบ จึงพบตัว MR.LI และจับกุมตัวไว้ ขณะที่ MR.HUANG พักอาศัยอยู่คอนโดฯ หรูแห่งหนึ่ง ย่านวัฒนา กทม.จึงขออำนาจศาลออกหมายค้น และเข้าตรวจค้นห้องพัก โดยพบ MR.HUANG พร้อมกับโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ จึงคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม.ดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับพฤติการณ์ของแก๊งดังกล่าว มีการตั้งขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ลักษณะเป็นการโฆษณาชักชวนให้ลงทุนบนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า GOLD TIANLI , EXCELLENT TRADING HALL, SINA FINANCE, JINYU INTERNATIONAL ซึ่งเป็นการลงทุนเกี่ยวกับคริปโตฯ โดยจะมีการชักชวนประชาชนจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เมื่อมีคนหลงเชื่อจะทำการพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นและชักชวนหลอกลงทุน อีกทั้งการจัดหาพนักงานคอลเซ็นเตอร์ มีการหลอกลวงและบังคับคนเข้าทำงานกับแก๊งดังกล่าว
อีกคดี ทาง กก.4 บก.สส.สตม.จับกุม MS.YANG หรือนางหยาง อายุ 35 ปี สัญชาติจีน หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ซึ่งโทรศัพท์หลอกลวงประชาชน โดยปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เชื่อมโยงกับการกระทำผิดกว่า 8,500 คดี มูลค่าเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และสำนักงานรักษา ความปลอดภัยสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ว่าผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน รายนี้ ได้ก่อเหตุด้วยการแอบอ้างเจ้าหน้าที่รัฐ ข่มขู่เหยื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญาและฟอกเงิน โดยมีฐานการกระทำผิดอยู่ที่เขตปกครองพิเศษว้า ประเทศเมียนมา แล้วหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ
ทาง บก.สส.สตม.จึงสั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม.นำกำลังสืบสวนติดตามตัวคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า MS.YANG หลบซ่อนอยู่ในบ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงขออำนาจศาลออกหมายและเข้าค้น กระทั่งสามารถจับกุม MS.YANG ส่วนการตรวจค้นภายในบ้านพัก พบโทรศัพท์มือถือหลายรายการ จากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางพบว่า MS.YANG ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องที่กฎหมายกำหนด จึงดำเนินคดีข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนรับไว้ดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี