บุกรวบตร.เก๊ตุ๋นพญ.
สูญเงินกว่า8แสนบาท
อ้างเอี่ยวแก๊งยาเสพติด
ตร.ไซเบอร์ รวบตำรวจเก๊หลอกลวง พญ.โรงพยาบาลใน จ.กำแพงเพชร สูญเงินกว่า 8 แสนพฤติการณ์แสบอ้างเหยื่อเกี่ยวพันฟอกเงินยานรก สอบสวนผู้ต้องหาอ้างเปิดบัญชีฯ แต่ไม่รู้ใช้กระทำผิด
เมื่อวันที่ 15มิถุนายนพล.ต.ท.วรวัฒน์วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.ท.วีระพล กันธวงศ์ สั่งการ พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.กัลญาณี อายุ 37 ปี ชาว จ.มหาสารคาม ตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ข้อหาเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตนจับกุมได้ที่ถนนหน้าร้านอู๋แซ่บเวอร์ ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
การจับกุมดังกล่าวเนื่องจากเมื่อวันที่ 12พฤษภาคมที่ผ่านมา พญ.รายหนึ่ง ที่โรงพยาบาลใน จ.กำแพงเพชร ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ว่าได้มีโทรศัพท์แอบอ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย แจ้งว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินยาเสพติด อีกทั้งมีการพูดจาโน้มน้าวจนพญ.คนดังกล่าวหลงเชื่อและโอนเงินไปให้เพื่อตรวจสอบบัญชี เป็นการแสดงความบริสุทธิ์ตามที่คนร้ายกล่าวอ้างโดยโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี น.ส.กัลญาณี ซึ่งโอนไปทั้งหมด 3 ครั้ง รวมเป็นยอดเงิน 819,100 บาท หลังจากนั้นจึงมาทราบทีหลังว่าถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ต่อมาได้มีการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา และทางชุดสืบสวน บก.สอท.4 บช.สอท.ได้เร่งสืบสวนติดตามตัว กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าตนได้เปิดบัญชีธนาคารออมสิน ที่ถูกใช้ในการกระทำผิด มาประมาณ 8 ปีแล้ว จนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาตนตกงานและได้ค้นหาแอพพลิเคชั่นกู้เงินออนไลน์ และได้พบแอพฯ หนึ่งซึ่งมีโปรไฟล์เป็นรูปโลโก้ธนาคารแห่งหนึ่ง จึงหลงเชื่อว่าเป็นแอพฯ ธนาคารจริง จึงทำการติดต่อเพื่อขอกู้เงินและเจ้าของแอพฯ ดังกล่าวได้ให้ตนทำตามขั้นตอนต่างๆเช่นสแกนใบหน้า ส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชนหน้าหลังและให้ตนส่งหมายเลขบัญชีให้ หลังจากทำรายการเสร็จ แอพฯ ดังกล่าวแจ้งให้รอการอนุมัติเงินกู้จากธนาคาร จากนั้นไม่นานก็ได้รับแจ้งจากธนาคารว่ามีเงินเข้าบัญชีธนาคารของตนแบบผิดปกติ ขอให้ตรวจสอบหลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีธนาคารเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท และมีการกดเงินออกจากบัญชีธนาคารของตนเช่นกัน ยืนยันว่าไม่เคยได้ทำธุรกรรมดังกล่าวเลย จากนั้นก็ยังมีเงินเข้ามาในบัญชีของตนเรื่อยมา จนเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับทางธนาคารเพื่ออายัดบัญชีของตน โดยจากการตรวจสอบทราบว่ามียอดเงินที่แจ้งอายัดกว่า 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ บช.สอท.ขอแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อการโทรศัพท์มาหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานต่างๆ อาทิ ตำรวจ ศาล อัยการ สรรพกร เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. พนักงานธนาคารต่างๆ เป็นต้น โดยอ้างว่าตนมีการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ และหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้ ซึ่งขณะนี้มีแก๊งมิจฉาชีพจำนวนมากซึ่งคอยหาวิธีการต่างๆเพื่อหลอกลวงพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะให้โอนเงิน หรือทำธุรกรรมต่างๆ ควรตรวจสอบให้ดีก่อน เพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี