ญาตินักธุรกิจเยอรมันร้อง‘บิ๊กโจ๊ก’ช่วยตามหาตัว ตร.คาดทำเป็นแก๊ง มุ่งเอาทรัพย์สิน
ความคืบหน้ากรณีนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ชาวเยอรมัน หายออกจากบ้าน และมีผู้พบเห็นครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 12.41 น. พร้อมรถเบนซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน ญศ 7146 กทม. ขับไปทางถนนชัยพฤกษ์ซอย 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยญาติได้ประกาศตามหา หากพบเจอรถคันนี้ให้รางวัล 100,000บาท ถ้าพบตัวผู้สูญหายมีรางวัลให้ 3,000,000 บาท โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (9 ก.ค.66) พบรถเบนซ์ถูกจอดทิ้งไว้ลานจอดรถชั่วคราวของคอนโดมิเนียมในซอยเขาน้อย หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และมีการเก็บหลักฐานเพิ่มเติมจากการตรวจสอบสิ่งผิดปกติภายในรถคันดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ยึดรถ SUV ตรวจสอบ กล้องจับภาพชัดขับคู่เบนซ์ ก่อนนักธุรกิจเยอรมันหายตัว)
ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ค.66) ที่สมาคมพนักงานสอบสวน สโมสรตำรวจ ครอบครัวนายฮันส์ ซึ่งมีภรรยาชาวไทย 2 คน และลูกชาย 2 คน เดินทางพร้อมตัวแทนมูลนิธิวินวิน เข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เพื่อขอให้ช่วยเหลือตามหาตัวนายฮันส์
ภรรยาคนล่าสุดของนายฮันส์ ระบุว่า ในวันเกิดเหตุมีการนัดหมายกับทางสามีว่าจะไปดูที่ดินกัน โดยสามีบอกว่าจะไปหาลูกค้าก่อน จนเมื่อถึงเวลานัดหมาย สามีก็ไม่มาตามนัด และเมื่อครอบครัวพยายามติดต่อ ซึ่งตนได้พยายามติดต่อสามี แต่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่จะมีข้อความส่งกลับมาจากทางสามีว่าอยู่กับลูกค้า ทั้งๆที่ปกติสามีเป็นคนไม่ส่งข้อความ จนเวลาล่วงเลยตั้งแต่ประมาณ 15.00-22.00 น. ทางครอบครัวยังไม่สามารถติดต่อกับนายฮันส์ ได้ และสามียังคงส่งข้อความมาบอกว่าต้องอยู่กับลูกค้ารายนี้เขาเป็นลูกค้ารายสำคัญ จนมาตอนเช้าวันที่ 5 ก.ค.ก็ยังพยายามติดต่อสามีอยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จนมีข้อความสุดท้ายในช่วงเช้าวันที่ 5 ว่าจะอยู่กับลูกค้า ครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
“เรื่องที่นัดหมายคือจะมีลูกค้ามาดูที่ดินที่พัทยา แต่ในข้อความมีการพูดถึงเกาะสมุย ทั้งๆที่ไม่เคยมีการคุยกับตนเองเรื่องเกาะสมุย ตนมองว่าสามีถูกจับตัวไปแน่นอน เพราะสามีไม่เคยผิดนัดเรื่องงาน เป็นคนตรงเวลา ไม่ชอบให้ครอบครัวเป็นห่วง และคนที่จับตัวไป ไม่น่าใช่เรื่องที่ดินแล้ว แต่น่าจะเป็นกลุ่มคนที่รู้ว่าสามีตนเองทำธุรกิจอะไรมากกว่า และไม่ทราบว่าเป็นคนกลุ่มไหนมาจับสามีตนเองไปและเรื่องอะไร แต่ก็อยากให้ปล่อยสามีตนเอง ส่วนคนที่ตำรวจเชิญมาเมื่อวาน ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน โดยครอบครัวยังคงสงสัย คนที่ปรากฏในวงจรปิด แต่ต้องรอดให้ตำรวจตรวจสอบในประเด็นนี้” ภรรยาของนายฮันส์ กล่าว
ภรรยาของนายฮันส์ ฝากถึงคนที่พาสามีไปขอให้ปล่อยตัว อยากได้อะไรให้มาคุยกัน ไม่ใช่เก็บตัวสามีตนเองไปแล้วหายเงียบแบบนี้ วันนี้จึงอยากให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยตามหาตัวสามี และมั่นใจว่าสามียังอยู่ในประเทศ และหวังว่าจะมีชีวิตกลับบ้าน ตลอดเวลาที่สามีหายตัวไป ยังไม่เคยมีโทรศัพท์มาเรียกเงินแต่อย่างใด ส่วนกระแสข่าวที่ปรากฏในประเทศเพื่อนบ้าน ตนเองยืนยันว่า สามีไม่เคยเดินทางไปแถว ๆ ชายแดนย่านจังหวัดสระแก้ว ด้านลูกชายก็อยากให้เจอพ่อเร็ว ๆ เพราะครอบครัวเป็นห่วง ส่วนคนที่ตำรวจเอาตัวไปสอบเมื่อวานก็เห็น ที่ สภ.ตนเองฟังออกว่ามีการสื่อสารอะไรกับตำรวจ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย
ขณะที่มีรายงานในคดีว่าเบื้องต้นหลังจากที่ทางตำรวจได้พบกับรถยนต์คันที่หายไปพร้อมกับตัวนายฮันส์ ต่อมาตำรวจได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยจำนวน 3 ราย ชาวเยอรมัน ไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งการให้ปากคำตลอดคืนที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ รวมถึงตำรวจยังได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลของความเชื่อมโยงกับกลุ่มบุคคลที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปในครั้งนี้
ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงินของทางนายฮันส์ ตอนนี้พบมีการโอนเงินออกจากแอพพลิเคชั่นธนาคารของ นายฮันส์ ปีเตอร์ จำนวนหลายครั้ง รวมยอด 2 ล้านบาท ซึ่งการโอนดังกล่าวเป็นการโอนอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบบัญชีรับโอนปลายทาง
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 และชุดสืบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามตัวนายฮันส์ ที่ได้หายออกจากบ้าน เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่พบเบาะแสร่องรอยของตัวผู้สูญหาย แต่พบรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์สีเทาจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จ.ชลบุรี
ทั้งนี้ ขยายผลเชิญตัวผู้ต้องสงสัยในคดี เป็นหญิงไทยทำหน้าที่ชี้เป้า 1 คน และผู้ต้องสงสัยอีก 1 คน คือ นายโอลาฟ รับโอนเงิน ซึ่งยังให้การปฏิเสธ เนื่องจากมีการคุยกับทนายความมาก่อนแล้วถึงแนวทางที่จะให้การกับเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลคดีนี้พบว่าผู้ก่อเหตุมีการวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ส่วนมูลเหตุขณะนี้เชื่อว่าประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากผู้สูญหายมีทรัพย์สินจำนวนมาก และในช่วงที่หายตัวไปมีการโอนเงินออกจากบัญชี ขณะเดียวกันพบว่ามีการพยายามทำลายหลักฐาน โดยพบสารเคมีบางชนิดอยู่ภายในรถ ซึ่งก็อยู่ระหว่างรอผลจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานว่าเป็นสารชนิดใด และจะต้องไล่ดูกล้องวงจรปิดให้ครบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม
“ขณะนี้สิ่งสำคัญ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามตัวผู้สูญหายมาให้ได้โดยเร็วไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพื่อให้ความจริงปรากฏ และสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยว เพราะไม่อย่างนั้น การอุ้มหายดังเช่นกรณีดังกล่าว ทั้งชาวจีนหรือชาวเยอรมัน รวมทั้งชาวต่างชาติ จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่มีความเชื่อมั่นในความปลอดภัยเมื่อมาประเทศไทย” รอง ผบ.ตร. กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี