รับมือฝีดาษลิง
กทม.ผวายอดป่วยพุ่ง
ลุยชุมชนตรวจหาเชื้อ
กทม.ถกแผนรับมือผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงพุ่งอันดับ 1 ของประเทศ ยอดป่วย 152 ราย เร่งลงพื้นที่ชุมชนให้ความรู้ประชาชนป้องกันตัวเอง ตรวจหาผู้สัมผัสใกล้ชิด ด้าน สธ.ห่วง 19 จว.ผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่องระยะหลังผู้ป่วยเป็นคนไทยเกือบ 100% ส่วนต่างชาติที่ติดเชื้อเป็นการติดเชื้อในไทย
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยความคืบหน้าการเฝ้าระวังโรคฝีดาษลิงในประเทศไทยว่า กระทรวงสาธารณสุขรายงานพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงเพิ่มมากขึ้นใน 19 จังหวัด สถานการณ์น่าห่วง สถานการณ์ถือว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะยังมีความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับกลุ่มที่ติดเชื้อเอชไอวีอยู่แล้ว และสามารถแพร่ต่อได้
ทั้งนี้ ช่วงแรก ประมาณเดือนกรกฎาคม 2565 – เมษายน 2566 จะเป็นชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง แต่ในการติดเชื้อช่วงหลัง ผู้ติดเชื้อเป็นคนไทยเกือบ 100% ส่วนต่างชาติที่ติดเชื้อช่วงหลังเป็นการมาติดเชื้อในประเทศไทย ไม่ใช่เป็นการนำเชื้อมาจากต่างประเทศแล้ว โดยพื้นที่ที่มีการติดเชื้อค่อนข้างมากคือ กรุงเทพมหานคร (กทม.) ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยว และจากรายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม -15 สิงหาคม มี 3 จังหวัดที่อยู่ในระดับสีแดงคือ กทม. 136 คน นนทบุรี 14 คน ชลบุรี 9 คน
นพ.โสภณย้ำว่า คนทั่วไปยังไม่ต้องกังวลมาก หากไม่มีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยง คนทั่วไปแทบไม่มีโอกาสติดเลย อย่างช่วง 2-3 เดือนหลังนี้ไม่มีผู้หญิงติดเชื้อเลย มีแต่ผู้ชายที่มีความเสี่ยงทางเรื่องเพศ เพราะจากการสอบสวนโรคพบว่าเกือบ 100% เป็นคนที่มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ถ้าไปมีความเสี่ยงมาแล้ว ก็ให้ตรวจสอบตัวเองว่า มีผื่นหรือตุ่มบริเวณที่สัมผัสหรือไม่ ทั้งอวัยวะเพศ ปาก หน้าท้อง แผ่นอก ถ้าลุกลามเป็นตุ่มหนองมากขึ้น บางคนมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ มีต่อมน้ำเหลืองโต ให้ไปตรวจรักษาที่รพ. สวมหน้ากากอนามัย เว้นสัมผัสกับผู้อื่น ส่วนคนที่ไม่เป็นก็ขอให้ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้สิ่งของร่วมกับคนอื่น
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร รศ.ดร.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวถึงสถานการณ์โรคฝีดาษลิงในกรุงเทพมหานครหลังประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่18/2566 ว่า จากข้อมูลปี 2565 มีผู้ป่วย 136 ราย ถึงปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 152 ราย เดือนที่พบมาที่สุดคือเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม พบผู้ป่วยเดือนละประมาณ 40 ราย ทั้งนี้ เมื่อเกิดสถานการณ์ติดเชื้อ สำนักอนามัย กทม.ร่วมกับกรมควบคุมโรคลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพแวดล้อมของผู้ติดเชื้อว่ามีผู้ใกล้ชิดกี่ราย อยู่ในชุมชนใด รวมถึงตรวจหาเชื้อจากผู้ใกล้ชิดที่อาศัยร่วมกัน และกำหนดให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโดยตรงล้างพื้นที่สภาพแวดล้อมที่มีการติดเชื้อ แล้วพักทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นใช้ผงซักฟอกล้างซ้ำ โดยขั้นตอนทั้งหมดสำนักอนามัยจะลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ทั้งการทำความสะอาด ป้องกันโรค ขั้นตอนปฏิบัติตนกรณีมีอาการเริ่มต้น รวมถึงการล้างทำความสะอาดพื้นที่ เช่น ห้องน้ำ และการปฏิบัติที่ปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี