‘น่าน’ขยายผลทลายแก๊งค้ายา สุดแสบได้เงินปุ๊บเข้าร้องคาราโอเกะ แจกทิปนักร้อง

ภายใต้การอำนวยการของนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน , นายนิวัฒน์ งามธุระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน , นายนพพร เรืองสว่าง นายอำเภอเวียงสา , นายจวน จันเครื่อง ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุเอ็ด พิมทอง รอง ผกก ป. รรท.ผกก.สภ.เวียงสา , เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เวียงสา และสมาชิก อส.อ.เวียงสา จำนวน 10 นาย ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2566 เพื่อปิดล้อมตรวจค้นบุคคลคาดว่าน่าจะยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดตามข้อสั่งการของกรมการปกครองในการป้องกันและปราบรามยาเสพติดในพื้นที่

จากแนวทางสืบสวนพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน จึงได้สนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านผู้ต้องสงสัยดังกล่าว เมื่อไปถึงบ้านผู้ต้องสงสัยอยู่ภายในบ้าน 3 คน จึงได้ทำการตรวจสารเสพติดในร่างกายทั้ง 3 คน ได้แก่ 1.นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี เจ้าบ้าน ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย 2.นางสาวบี (นามสมมุติ) ผู้อาศัย ไม่พบสารเสพติดในร่างกาย 3.นายเนส (นามสมมุติ)  ผู้อาศัย พบสารเสพติดในร่างกาย

ภายหลังจากการตรวจสารเสพติดในร่างกายแล้วจึงได้เข้าตรวจค้นภายในบ้านเพิ่มเติมเพราะคาดว่าอาจจะยาเสพติดไว้ในครอบครอง พบถุงสีขาว 3 ถุง และถุงสีดำ 1 ถุง ซุกซ่อนอยู่ในกองทรายในเขตบริเวณบ้านผู้ต้องสงสัย จึงได้ทำการเปิดถุงดูพบยาบ้า 8,000 เม็ด จึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานและนำตัวผู้ต้องสงสัยส่งพนักงานสอบสวน สภ.เวียงสา เพื่อดำเนินการสอบสวนในส่วนที่เกี่ยวข้อง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลการจับกุม พบว่า มีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดอาศัยบ้านเช่าแห่งหนึ่ง บริเวณใกล้กับสนามบินน่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เวียงสา จึงประสานข้อมูลมายังชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน โดยมี พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์  ผบก.ภ.จว.น่าน , พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน , พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงศ์ไชย รอง.ผกก.สส. พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน หลังรับการประสานข้อมูล จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ

เมื่อไปถึงปากซอยพบผู้ต้องสงสัยขับรถออกมาพอดี จึงทำการควบคุมตัว 2 สามีภรรยาตามที่ได้ประสานข้อมูลมาเพื่อขยายผลต่อ โดยทั้ง 2 สามีภรรยา ให้ข้อมูลว่ามีขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ “นายทู” อยู่ที่บ้านปางเป๋ย ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน สามารถสั่งซื้อมากขนาดไหนก็ได้ ขอแค่มีเงิน โดยนายทู ขายยาบ้าในราคาเม็ดละ 6.50 บาท จึงให้ 2 สามีภรรยาทำการล่อซื้อยาบ้ากับนายทู 8,000 เม็ด ในราคา 52,000 บาท นายทูนัดส่งมอบยาบ้าให้บริเวณ ทางเข้าหมู่บ้านปางเป๋ย เมื่อถึงเวลานายทูได้นำยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด มาส่งมอบให้สายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัวเข้าจับกุม

นายทู ยอมรับสารภาพว่าค้ายาเสพติดจริง จึงนำตัวพร้อมของกลาง ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองน่าน โดยนายทู เปิดเผยข้อมูลว่า รับยาบ้าต่อมาอีกที โดยรับมามัดละ 2,000 เม็ด ราคา 12,500 บาท นำมาขายต่อมัดละ 2,000 เม็ด ราคา 13,000 บาท

ส่วนที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ได้รับข้อมูลจากสายลับ ว่า นายศิลา อยู่ที่บ้านดอยติ้ว อำเภอท่าวังผา ชอบมาเที่ยวร้านคาราโอเกะบริเวณถนนหน้าสนามบินน่านนคร และนำยาบ้าจากต่างอำเภอมาขายตัดราคา คือ ปกติราคาเม็ดละ 6.50 บาท แต่นายศิลา ขายราคาเม็ดละ 5.50 บาท เจ้าหน้าที่จึงให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายศิลา จำนวน 14,000 เม็ด ในราคา 80,000 บาท

เมื่อถึงเวลา นายศิลา ได้นำยาบ้าจำนวน 14,000 เม็ดมาซุกซ่อนบริเวณเสาไฟฟ้าทางเข้ามหาวิทยาลัยลัยชื่อดังในตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน แล้วโทรบอกให้สายลับมารับยาบ้า ส่วนนายศิลาได้ไปนั่งดื่มเหล้าร้องคาราโอเกะ อยู่ร้านคาราโอเกะฉลองเงินได้จากการค้ายา พร้อมแจกทิปนักร้องไม่อั้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามไปรวบตัวได้ขณะกำลังร้องคาราโอเกะ ค้นตัวพบปืนไทยประดิษฐ์และกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิงพร้อมใช้งาน นายศิลา ยอมรับว่า เป็นยาบ้าของตนจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองน่าน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ ผบก.ภ.จว.น่าน กล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงรอยต่อของรัฐบาล แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดน่านก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ดำเนินจับกุมตัวผู้กระทำผิดและขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ ในเบื้องต้นก็ขอฝากมายังพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่าขบวนการค้ายาเสพติด มีปลายทางก็ต้องมีต้นทาง ส่วนผู้ครอบครองทางเราก็ดำเนินคดีอยู่แล้ว ขอฝากพ่อแม่พี่น้องประชาชนแจ้งเบาะแสมาที่สายด่วน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน หรือสถานีตำรวจใกล้บ้าน ทางเราจะดำเนินการสืบสวนจับกุมกลุ่มขบวนการผู้ค้ายาเสพติดมาดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป......-005