จ.นครพนม พ่อแฉคลิปป้าซิ่งเก๋ง หนีไฟแดงชน จยย.ลูกสาว 14 ปางตาย ร้องสื่อหวั่นคดีไม่คืบ คู่กรณีไม่มีแม้แต่คำขอโทษ
13 ก.ย.2566 กรณี นายเฉลิมพล พรมพินิจ อายุ 37 ปี ชาวบ้านชุมชนวัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นำภาพหลักฐานเป็นคลิปวงจรปิด ออกมาเผยแพร่ ร้องเรียนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อโซเชียล พร้อมสะท้อนขอความเป็นธรรมไปยังหน่วยงานตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง กรณีลูกสาวชื่อ เด็กหญิงไก่ อายุ 14 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กญ 1684 นครพนม ประสบอุบัติเหตุถูกรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าสีขาว พุ่งชนบริเวณกลาง 4 แยกไฟแดง เยื้องห้างโลตัส ฝั่งมุ่งหน้าขาออกจากตัว อ.ธาตุพนม
ทั้งนี้ รถยนต์เก๋งคันดังกล่าว มีป้าอายุ 60 ปี ชาว อ.ธาตุพนม เป็นคนขับ พยายามเร่งเครื่องขับหนีไฟแดง ขณะไฟสัญญาณจราจร กำลังเปลี่ยนจากไฟเตือนสีส้มกำลังเป็นสีแดง ส่งผลให้ชนรถจักรยานยนต์ที่อยู่อีกเส้นทาง ที่เห็นไฟจราจรเป็นสีเขียว จึงขับรถจักรยานยนต์ออกมา ทำให้รถยนต์คู่กรณีชนเข้าอย่างจัง ทำให้ร่างน้องไก่นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัว อ.ธาตุพนม คนขับรถจักรยานยนต์ กระเด็นกระแทกกับกระจกรถยนต์ ก่อนจะตกลงพื้นถนนหมดสติคาที่ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา
ภายหลังทางพ่อผู้บาดเจ็บได้เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.ธีระพงษ์ ท่าโทม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐานประกอบการดำเนินคดี แต่ยังไม่มีคำตอบชัดเจน เกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว อีกทั้งรถยนต์คู่กรณี ไม่มีประกันภัยชั้น 1 รวมถึงทางคู่กรณีพยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบ โดยทางบริษัทประกันภัยอาจเห็นฝั่งคนเจ็บ มีฐานะยากจนจึงพูดจาเชิงข่มขู่และจะให้เป็นการประมาทร่วม ซึ่งทางผู้เสียหายเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม เนื่องจากลูกสาวอาการยังไม่ปลอดภัย บาดเจ็บสาหัส กะโหลกร้าว เลือดคั่งในสมอง จึงยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม
ด้าน นายเฉลิมพล พรมพินิจ อายุ 37 ปี ชาวบ้านชุมชนวัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พ่อผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ 10 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ขณะลูกสาวขับรถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อน เนื่องจากปกติตนเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวทำงานที่ กทม. ส่วนลูกสาวอาศัยอยู่กับย่า หลังเกิดเหตุจึงลางานรีบเดินทางมาดูอาการลูกสาวและตรวจสอบขอภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง พบหลักฐานชัดเจนว่า ลูกสาวถูกรถยนต์ที่พยายามขับหนีเพราะไม่อยากติดไฟแดง ในจังหวะไฟสีส้มจะเป็นสีแดง ทำให้ชนรถจักรยานยนต์ของลูกสาว ร่างกระแทกรถยนต์และพื้นถนน อาการสาหัส หมดสติในที่เกิดเหตุ
ต่อมา เจ้าหน้าที่กู้ชีพนำร่างน้องไก่ส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชธาตุพนม แพทย์ดำเนินการช่วยเหลือ แต่อาการน้องไม่สู้ดีประกอบกับทาง รพ.มีอุปกรณ์ไม่ครบ จึงส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.นครพนม ในสภาพใส่เครื่องช่วยหายใจ แพทย์ระบุว่ากะโหลกศีรษะร้าว และเลือดคั่งในสมอง เพิ่งรู้สึกตัวฟื้นจากสลบเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 หลังเกิดเหตุ แต่ยังต้องรักษาตัวที่ รพ.นครพนม และยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด
นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า สิ่งที่กังวล คือ คู่กรณีพยายามบ่ายเบี่ยงอ้างว่าเป็นการประมาทร่วม จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับการชดเชยเยียวยา จึงต้องออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยมีหลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิดจากที่เกิดเหตุ มั่นใจว่ารถยนต์ขับรถประมาทชนลูกสาว และขอให้ชดเชยเยียวยาดูแลตามกฎหมายและขอความเป็นธรรมจากตำรวจ
“หลังเกิดเหตุในวันเดียวกัน คู่กรณีได้แวะมาเยี่ยมอาการลูกสาว โดยบอกว่าบังเอิญมาเยี่ยมญาติที่ป่วยอยู่ รพ.นครพนม ประกอบกับทางร้อยเวรให้มาเยี่ยมน้องไก่ด้วย เหมือนเขาไม่มีเจตนามาเยี่ยม และไม่สอบถามความคืบหน้าของอาการน้องเลย อีกทั้งไม่มีแม้แต่คำขอโทษ ส่วนเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน บอกว่าน้องไม่มีใบขับขี่ รถก็ไม่มี พ.ร.บ.ฯ ต้องไปจบกันที่ศาล ผมไม่มีความรู้ด้านกฎหมายและมีฐานะยากจน จะหาเงินที่ไหนจ้างทนายมาสู้ล่ะครับ” นายเฉลิมพล พรมพินิจ พ่อของน้องไก่ กล่าว.
ส่วน พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับกรณีเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ตนได้ตรวจสอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด และสอบถามพนักงานสอบสวนที่ดูแลคดีนี้ ยืนยันว่าทางตำรวจไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด จะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนทางพ่อหรือญาติผู้เสียหายมีความกังวล ว่าคู่กรณีฝ่ายรถยนต์ จะไม่ดูแลรับผิดชอบ และอาจจะเป็นการประมาทร่วม ขอให้มั่นใจว่ายังไม่มีการยืนยันชี้ชัดผลทางคดี อยู่ระหว่างการตรวจสอบหลักฐาน สอบสวนโดยละเอียด อย่างไรก็ตามขอให้ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ เชื่อมั่นว่า ถึงแม้หลักฐานจะเป็นการประมาทร่วม แต่ทางกฎหมาย คู่กรณีคือ คนขับรถยนต์ จะต้องชดเชยเยียวยาผู้เสียหาย ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสตามกฎหมาย
“ส่วนการดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่มีเข้าข้างคนผิด โดยหลักทางกฎหมายสำหรับการสัญจรไปมา การใช้รถใช้ถนน หากไฟจราจรเป็นสีส้ม ก่อนที่จะเป็นไฟแดง คนขับรถจะต้องระมัดระวังรถอีกเลนที่จะวิ่งตัดผ่านมา ตามหลักของการจราจร ผู้ขับขี่จะต้องหยุดรถเพื่อความปลอดภัย จึงขอเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนระมัดระวังปฏิบัติตามกฎจราจรเคร่งครัด” ผกก.สภ.ธาตุพนม กล่าว. 009
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี