นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) กล่าวว่า ได้นำหลักการพัฒนาพื้นที่สูงอย่างยั่งยืนตามแบบโครงการหลวง มาปรับใช้ให้สอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจใหม่ (BCG Economy) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป็นเข็มทิศในการดำเนินงาน มีการปรับระบบการผลิตจากการปลูกกาแฟในพื้นที่ว่างหรือเป็นการปลูกภายใต้ร่วมเงาไม้กว่า 2,700 ไร่ มีการนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้จากงานวิจัยมาใช้ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ ตั้งแต่การปลูก การดูแลรักษา การแปรรูป และการจำหน่ายกาแฟคุณภาพที่ไม่ส่ง
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานพัฒนาและแก้ไขปัญหาผลิตภาพและการผลิตกาแฟให้เกษตรกรในพื้นที่ตลอดห่วงโซ่การผลิต มีการสร้างเกษตรกรผู้นำให้เป็นต้นแบบความสำเร็จที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ และประสานความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่โครงการฯ กับเกษตรกรรายอื่น กระทั่งสามารถนำนวัตกรรมจากงานวิจัยมาปรับปรุงเทคโนโลยีการผลิตกาแฟอาราบิกาคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ โดยให้ผลผลิต สร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ มูลค่ารวม 4.27 ล้านบาท ในปี 2556 และเพิ่มเป็น 46.43 ล้านบาท ในปี 2566 โดยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 205,442.47 บาท/ครัวเรือน/ปี
รวมถึงเกษตรกร 226 ราย จาก 13 หมู่บ้าน ได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP จากกรมวิชาการเกษตร เกิดความร่วมมือของภาคเอกชนในการรับซื้อเมล็ดกาแฟกะลา ได้แก่ มูลนิธิโครงการหลวง บริษัทกาแฟชาวไทยภูเขา บริษัท ปตท.น้ำมันและค้าปลีก จำกัด (มหาชน) บริษัทบอนคาเฟ่ และผู้รับซื้อในท้องถิ่นเฉลี่ย 360–500 ตัน/ปี เกษตรกรได้รับโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ ด้วยการฝึกอบรมศึกษาดูงานทั้งในและต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น หนุ่มสาวที่ออกไปทำงานนอกพื้นที่กลับมาประกอบอาชีพเกษตรกรผลิตกาแฟอาราบิกา มีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิดและกลายมาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาช่องทางการตลาดใหม่ๆ
อีกทั้งพื้นที่ได้รับการปรับระบบมาปลูกกาแฟอาราบิกาใต้ร่มเงาไม้ (Shade-Grown Coffee) รวม 2,771 ไร่ การผลิตภายใต้แนวคิด Zero Waste ทำให้เกษตรกรนำเปลือกกาแฟที่เหลือทิ้งไปผลิตปุ๋ยหมักแล้วนำกลับมาใช้ลดต้นทุนการผลิตได้มากถึง 25 ตัน/ปี ชุมชนมีบ่อบำบัดน้ำเสียจากการสีแปรรูปกาแฟ 22 บ่อ 77 ครัวเรือน สามารถบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ เฉลี่ย 2,900,000 ลิตร/ปี มีเงินออมเฉลี่ยครัวเรือนละ 60,000 บาท/ปี สำหรับใช้จ่ายในครัวเรือน มีการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกตามความเหมาะสมของพื้นที่ ได้เพิ่มพื้นป่าให้ชุมชนโดยรอบมากกว่า 1,300 ไร่ เกิดการอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างยั่งยืน