ตร.50 นายระดมกำลังค้นหา'ไอ้หื่น'ข่มขืนเซลส์สาว เผยงัดบ้านขโมยอาหาร-เบียร์เผ่นหนีเข้าป่าไปอีก เผยลักษณะเดินอย่างใจเย็น ตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์อยู่บนเชิงเขาใกล้หมู่บ้าน แต่ยังไม่พบตัว  ล่าสุดต้องหยุดการปิดล้อมหลังเจอฝนตกอย่างหนัก

1 ต.ค.66 ความคืบหน้าในการปิดล้อมป่าไล่ล่านายชัยยศ เลียวดำ หรือโอ๋ อายุ 48 ปี บ้านเดิมอยู่จ.สงขลา ผู้ต้องหาคดีข่มขืนเซลส์สาวขายรถ อายุ 35 ปี โดยทำทีติดต่อซื้อรถกระบะ จากเต๊นท์รถแห่งหนึ่งในจ.ระยอง โดยติดต่อผ่าน น.ส.แดง (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี เซลส์ขายรถ ทางเฟสบุ๊ก โดยออกอุบายให้นำเอกสารมาเซ็นต์ชื่อที่บ้านพัก ในสวนยางพารา ซอยสวนป่า ม.3 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง ก่อนหลบหนีขึ้นเขา ผ่านไป 15 ชั่วโมง ยังไม่พบตัวตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :  'ไอ้หื่น'หิวโซ!!! จับสัญญาณแอบลงมาจากเขาหาของกิน กระจายกำลัง 5 จุดปิดล้อมกดดัน)

ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย พร้อมด้วยผู้นำชุมชน ชาวบ้านและ หน่วยกู้ภัยสว่างพรกุศล กระจายกำลังปูพรมค้นหาไปบนภูเขา ม.5 ต.สำนักทอง อ.เมือง จ.ระยอง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร หลังมีชาวบ้านพบนายชัยยศ เลียวดำ อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนเดินลงมาในหมู่บ้านแล้วได้ไปงัดบ้านชาวบ้านแล้วขโมยเบียร์และอาหารไป ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ที่คนร้ายขโมยไป ปรากฎว่า พบสัญญาณอยู่บนเขาใกล้กับสถานปฏิบัติธรรม มหาโพธิสัตว์กวนอิม จึงได้นำกำลังขึ้นไปค้นหา โดยมีทั้งเดินเท้า ขี่รถจยย.วิบาก ปูพรมค้นหา ท่ามกลางฝนที่ตกลงมา

โดยนายถาวร ยั่งยืน ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้ต้องหาได้งัดบ้านในพื้นที่หมู่5 ต.สำนักทอง แล้ว ขโมยเบียร์ไปหนึ่งขวดพร้อมกับอาหาร พอดีสุนัขเห่า ผู้ต้องหาจึงรีบหนีไป

ด้านนางแตน อายุ 57 ปี ชาวบ้านเขาไม้แดง ในพื้นที่หมู่5 ต.สำนักทอง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ตนเองกำลังยืนอยู่ข้างบ้าน ได้ยินเสียงสุนัขเห่า เมื่อเพ่งมองดู ก็พบว่า เป็นนายชัยยศ ผู้ต้องหา ที่กำลังเดินผ่านหน้าบ้าน โดยนายชัยยศ ใส่เสื้อยืดสีเทาดำกางเกงสีน้ำตาล ในมือถือถุงพลาสติกหนึ่งใบ เดินผ่านไปอย่างใจเย็น ด้วยความตกใจจึงรีบอุ้มหลานเข้าบ้านทันที รู้สึกกลัวมากต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเวลา 18.30 ซี่งมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปูพรมค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอันตรายเนื่องจากพื้นที่เป็นป่ารก สัตว์มีพิษชุกชุม จึงได้ยกเลิกการปูพรม โดยจัด กำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าเส้นทางเข้าออกทุกเส้นทาง รอเช้าพรุ่งนี้ ( 2 ต.ค.)ค่อยนำกำลังปูพรมค้นหากดดันอีกครั้งหนึ่ง