ตำรวจบก.ปอศ.จับกุม2 กรรมการบริษัททิพย์ อ้างเปิดกิจการนำเข้า-ส่งออกเครื่องยนต์ ออกใบกำกับภาษีปลอมให้พ่อค้าขายของเก่าหลายร้อยใบ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 1,200 ล้านบาท ยังปัดทุกข้อหา

เมื่อวันที่ 5ตุลาคม พ.ต.อ.นฤพนธ์ กรุณา ผกก.2 บก.ปอศ.พร้อมด้วย พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. พ.ต.ท.วรรณลพ รัตนวงษ์สว.กก.2 บก.ปอศ.นำกำลังจับกุมนายถนอม อายุ 51 ปี และ นายสืบสกุล อายุ 55 ปี ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5630-31/2568 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 ข้อหาร่วมกันออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิที่จะออกตามกฎหมายโดยจับกุมนายถนอมได้ที่บริเวณลานจอดรถ ม.ราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพระนครเหนือ แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม.ส่วนนายสืบสกุล จับกุมได้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.ทางเกวียน อ.แกลง จ.ระยอง

การจับกุมครั้งนี้ เนื่องมาจากกรมสรรพากรตรวจพบความผิดปกติของบริษัท ไดเร็คมาร์เก็ตติ้งเอ็กซเพรส จำกัด ซึ่งอ้างว่าประกอบธุรกิจนำเข้า–ส่งออก จำหน่ายรถยนต์ เครื่องยนต์ เครื่องจักรมือสอง และอะไหล่ต่างๆ โดยตั้งสำนักงานอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 87 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม.แต่จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าในระหว่างเดือนกันยายน 2556 ถึงมกราคม 2558 บริษัทมีนายสืบสกุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2560 ถึงปัจจุบัน มีนายถนอม เข้ามารับช่วงต่อเป็นกรรมการผู้มีอำนาจแทน โดยทั้งสองมีพฤติการณ์ออกใบกำกับภาษีให้กลุ่มผู้ค้าของเก่าหลายราย โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง ภายหลังพบเอกสารหลักฐานทั้งใบกำกับภาษีและสำเนาใบกำกับภาษีจำนวนมาก ตั้งแต่ปี 2557–2559 หลายร้อยฉบับ ซึ่งเมื่อกรมสรรพากรประเมินรวมภาษีมูลค่าเพิ่มและเบี้ยปรับแล้ว พบว่ารัฐเสียหายกว่า 1,200ล้านบาท

จากนั้นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรจึงทำหนังสือเชิญตัวแทนบริษัทดังกล่าว เข้าชี้แจง พร้อมขอเอกสารประกอบเพิ่มเติม แต่ไม่มีการตอบกลับ และเมื่อเข้าตรวจสถานที่จดทะเบียนบริษัท พบเป็นเพียงทาวน์โฮม 2 ชั้น ไม่มีพนักงานหรือการดำเนินกิจการใดๆ ซึ่งส่อว่าเป็นการจัดตั้งบริษัทบังหน้าเพื่อออกใบกำกับภาษีเท็จ จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ บก.ปอศ.เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับกรรมการบริษัททั้งสองรายกระทั่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหา

ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.ปอศ.ได้เร่งวางแผนสืบสวนติดตามจนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ดังกล่าว สอบสวนเบื้องต้นทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ.รับไว้ดำเนินคดีต่อไป