จ่อขอศาลออกหมายจับต่างชาติเจ้าของสถานพยาบาลรับอุ้มบุญคาดสรุปสำนวนส่งอัยการภายในต้นเดือนหน้า พร้อมจับมือสบส.ขยายผลเส้นทางการเงินเพื่อกวาดล้างนายทุนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการอุ้มบุญ
วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นางพิชญา ธารากรสันติ โฆษกดีเอสไอ ร่วมกับ ร.ต.อ.ทินวุฒิ สีละพัฒน์ ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ แถลงผลความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 236/2565 กรณีขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทนหรืออุ้มบุญให้กับผู้ว่าจ้างชาวต่างประเทศที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ใน จ.หนองคาย กรณีเด็กชายแทนไท (นามสมมุติ) ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจค้นสถานพยาบาล 3 แห่ง ที่อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวน การอุ้มบุญ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยได้สอบสวนปากคำพยานที่เกี่ยวข้องจำนวน 29 ราย รวมทั้งผลการตรวจสอบพิสูจน์ วิเคราะห์วัตถุพยาน เอกสาร และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และจากปฏิบัติการตรวจค้นสถานพยาบาลหลายแห่งในกรุงเทพ มหานคร นำไปสู่พยานหลักฐานสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เชื่อมโยงไปยังบุคลากรทางการแพทย์ และบุคคลต่างชาติที่เป็นเจ้าของสถานพยาบาลที่เกี่ยวข้อง โดยพฤติการณ์ร่วมกันการทำความผิดตามกฎหมายอุ้มบุญ ในลักษณะของการเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีความผิดตามข้อหาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ให้แก่สามีและภรรยาโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้า
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีบุคลากรทางการแพทย์ 1 ราย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยเลยรายละเอียดการให้ปากคำ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อรูปคดี แต่โดยรวมแล้วถือว่าให้การเป็นประโยชน์ต่อคดีอย่างมาก และยังมีเจ้าของสถานพยาบาลอีก 1 ราย ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ได้ออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หากไม่เข้ามาตามกำหนดจะพิจารณาขออำนาจศาลออกหมายจับต่อไป
สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์นั้น มีแผนประทุษกรรมคือ เป็นผู้นำผู้หญิงที่รับจ้างอุ้มบุญมาดูแลสุขภาพร่างกาย จนกระทั่งดำเนินการฝังตัวอ่อนตามเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ จนเด็กในครรภ์เจริญเติบโตอยู่รอดคลอดออกมาเป็นทารก ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วตามกฎหมายอุ้มบุญ
โดยสรุปแล้ว ขณะนี้สามารถดำเนินคดีได้ทั้งขบวนการ แบ่งเป็น กลุ่มนายหน้าจัดหาหญิงมาอุ้มบุญจำนวน 3 ราย / ผู้หญิงที่รับจ้างอุ้มบุญจำนวน 7 ราย / บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าของสถานพยาบาล 2 ราย / รวมผู้กระทำความผิดทั้งสิ้น 12 ราย
เบื้องต้นสามารถจับกุมหญิงรับจ้างอุ้มบุญได้แล้วทั้งหมด 7 ราย ส่วนนายหน้าจัดหาหญิงมาอุ้มบุญถูกออกหมายจับแล้วทั้งหมด สามารถติดตามจับกุมได้ 1 ราย อีก 2 รายอยู่ในระหว่างการติดตามนำตัวมาดำเนินคดี คาดว่าจะสรุปสำนวนพร้อมความเห็นทางคดีส่งไปยังพนักงานอัยการภายในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้
หลังจากนี้คณะพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขยายผลด้านเส้นทางการเงินไปยังกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการอุ้มบุญและจะดำเนินการกวาดล้างขบวนการอุ้มบุญกลุ่มอื่น ๆ ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุขต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี