'กัน จอมพลัง'พาป้า-ย่าเข้าแจ้งความหลังหลานชายวัย 3 ขวบที่อยู่กับแม่-พ่อเลี้ยงซี่โครงหักเข้ารพ.

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง ได้พานางวันทนา  อายุ 47 ปี ย่า และน.ส.ทัดดาว อายุ 25 ปี ป้าของ ด.ช.ออโต้ อายุ 3 ขวบ 8 เดือน เข้าแจ้งความกับพ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง และพ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง หลังจากที่หลานชาย ซึ่งอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยงเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุด หลานชายมีอาการซี่โครงหัก ปอดฉีก ม้ามแตก แขนหัก และมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย
   

ด้านนายกัน จอมพลัง กล่าวว่า วันนี้ได้พาป้ากับย่าของน้องอายุ 3 ขวบ มาหาความจริง เนื่องจากหลานชายขณะนี้มีอาการโคม่านอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล และอยู่ในการดูแลของแม่ พ่อเลี้ยง และคุณตา ซึ่งขณะนี้น้องมีอาการซี่โครงหัก ปอดฉีก และม้ามแตก แขนหัก และมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ซึ่งทางคุณย่ากับคุณป้าของน้องก็ได้มีการสอบถามไปทางแม่ของน้องว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานชาย ซึ่งทางแม่ของเด็กให้เหตุผลว่าที่น้องมีรอยฟกช้ำนั้น เป็นเพราะน้องเป็นโรคเลือดจาง แต่ทางคุณหมอที่รักษาได้ให้ข้อมูลว่าอาการแบบนี้มันไม่ใช่เป็นอาการของโรคเลือดจาง ซึ่งก็สงสัยว่าทางน้องจะถูกทำร้าย ซึ่งอาการซี่โครงหัก แขนหัก มันเกี่ยวอะไรกับโรคเลือดจาง ทางคุณป้ากับคุณย่าก็ได้มาลงบันทึกประจำวันที่สภ.คลองหลวง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าต้องให้คุณแม่ของน้องเป็นคนมาแจ้งเอง จึงเกิดการตั้งคำถามกันขึ้นว่าน้องที่อยู่ในความดูแลของคุณแม่ พ่อเลี้ยง และคุณตานั้น หากเกิดกรณีที่น้องถูกทำร้ายขึ้นมาจริงๆ เขาจะมาแจ้งความหรือไม่

นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า แล้วทางป้ากับย่าก็สงสัยว่าหมอบอกว่าถ้ามาแจ้งความแบบนี้ หมอจะไม่รักษา ซึ่งทางคุณหมอก็บอกว่าไม่ได้เคยพูดแบบนี้ ตอนนี้ก็ยังรักษาน้องอยู่ น้องถูกกระทำแล้วมารักษาอยู่ที่โรงพยาบาล 5 ครั้งทางคุณหมอก็รักษาทุกครั้ง และมีคนซึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นข้าราชการมาบอกว่าให้ทางญาติไปถอนแจ้งความ แล้วมันไม่ดีตรงไหนที่ทางคุณย่าและคุณพ่อของเขามาแจ้งความเพื่อปกป้องลูกของตัวเอง แล้วมาแจ้งความกับตำรวจหาความจริงว่าใครเป็นคนกระทำหลานชายกันแน่ ซึ่งท่านใช้สิทธิ์อะไรของการเป็นข้าราชการให้ทางคุณย่าไปถอนแจ้งความเรื่องที่เด็กถูกกระทำ ซึ่งทางป้ากับย่า และพ่อของเด็กก็ห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะทางแม่ของเด็กบอกกับทางโรงพยาบาลว่าห้ามให้ข้อมูลกับทางฝ่ายผู้เป็นพ่อ และให้กับคุณแม่เท่านั้น ตนเองจึงได้พาป้ากับย่า และพ่อแท้ๆ มาหาความจริงร่วมกับเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี

ด้านน.ส.ทัดดาว อายุ 25 ปี ผู้เป็นป้า บอกว่า หลานชายอยู่กับแม่เขาตังแต่เกิด ไม่ได้ไปมาหาสู่กันมาก จะรู้เพียงว่าเวลาหลานชายไม่สบายเข้าโรงพยาบาลและก็ขอเงินพาหลานไปหาหมอ สาเหตุหลักๆ ที่ป่วยคือน้องอาเจียน ส่วนรอยฟกช้ำนั้นอาการของน้องกำเริบเป็นสาเหตุจากเลือดจาง ซึ่งก็ไปเยี่ยมน้องทุกครั้งที่น้องเข้าโรงพยาบาล อาการน้องคือรักษาตามอาการ และก็ฟันธงไม่ได้ว่าน้องถูกกระทำหรือไม่  

ส่วนนางวันทนา อายุ 47 ปี ผู้เป็นย่า บอกว่าน้องมีรอยเขียวช้ำทุกครั้งที่ย่าไปเยี่ยม หมอก็สงสัยแต่หมอไม่กล้าฟันธง ครั้งล่าสุดน้องเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2566 แม่น้องโทรศัพท์มาบอกว่าออโต้ไม่สบาย รักษาอยู่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ ตนจึงอยากไปเยี่ยม เพราะสงสัยมาตลอด และกลัวเด็กจะไม่รอด อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้สัมผัสกันมาก แต่อยากรับหลานชายมาอยู่ด้วย เพราะกลัวว่าหลานจะไม่ปลอดภัย

ด้านพ.ต.ท.สุชัย แสงส่อง รองผกก.สอบสวนสภ.คลองหลวง ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ได้รับเรื่องร้องทุกข์ที่ทางด้านย่ากับป้ามาแจ้งความเอาไว้ และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้ไปเชิญตัวแม่ของเด็กมาสอบสวน ส่วนเรื่องของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทางด้านกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ปทุมธานี ได้เข้าไปสอบปากคำเด็ก และต้องรอผลตรวจสอบบาดแผลของเด็กก่อน ---017