นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ วิสาหกิจชุมชนบ้านตอไม้แดง จ.กาญจนบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ว่าเล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ของพี่น้องเกษตรกรเพื่อต่อยอดการประกอบอาชีพที่มั่นคง จึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ จัดทำโครงการ “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พบประชาชน” เพื่อบริการความรู้ด้านวิชาการให้แก่พี่น้องเกษตรกรในด้านพืช ด้านปศุสัตว์ และด้านประมง รวมถึงจัดทำแนวทางการขับเคลื่อนโครงการในอนาคต โดย จ.กาญจนบุรี มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการมากกว่า 150 คน ทั้งนี้ รมช.เกษตรฯ ได้มอบปัจจัยการผลิตต่างๆ ให้แก่ตัวแทนเกษตรกร 15 หมู่บ้าน อีกด้วย
“การมาเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนบ้านตอไม้แดง ทำให้เห็นถึงศักยภาพของวิสาหกิจชุมชนที่มีการพัฒนาไปมากขึ้น แสดงถึงองค์ความรู้ภายในกลุ่มที่มีการพัฒนาทั้งในการผลิต พัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ รวมถึงด้านการตลาด การออกแบบบรรจุภัณฑ์ ซึ่งตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ภายใต้การบริหารของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง รวมทั้งกระทรวงเกษตรฯ พร้อมสนับสนุนรูปแบบการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน สู่รูปแบบ SME เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้พี่น้องเกษตรกรสามารถยืนบนขาของตนเองได้” นายไชยา กล่าว
นอกจากนี้ รมช.เกษตรฯ ได้เดินทางไปยังด่านชายแดนบ้านพุร้อน เพื่อตรวจราชการตามนโยบายปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ซึ่งผลการปฏิบัติงานตามคำสั่งเร่งด่วน (ตรวจห้องเย็น) 3 แห่ง ไม่พบการกระทำความผิด ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์ มีมาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้าในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี โดยการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในการเฝ้าระวัง และตั้งจุดตรวจตามเส้นทางการเคลื่อนย้ายสินค้า บริเวณรอยต่อจังหวัดและแนวตะเข็บชายแดน
นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จ.สุรินทร์ ว่าขอชื่นชมศูนย์แห่งนี้ที่มีส่วนช่วยให้ผ้าไหมสุรินทร์ เป็นที่รู้จัก โดยมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งไทยเคยตัดชุดด้วยผ้าไหมสุรินทร์มอบเป็นของขวัญที่ระลึกให้แก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจในการประชุมบนเวทีโลก (APEC) และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก จึงมอบนโยบายให้กรมหม่อนไหม ช่วยส่งเสริมและผลักดันผ้าไหมไทยให้เป็น Soft Power ให้ทั่วโลกรู้จัก ซึ่งผ้าไหมไทยต้องสวมใส่ได้ทุกเพศ ทุกวัย ไม่ร้อน ดูแลรักษาง่าย
“อยากให้นักออกแบบรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานจากผ้าไหมไทยให้ไปอยู่บนเวทีแฟชั่นระดับโลก หรือเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าแบรนด์เนม ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางต่อไป และควรให้ผู้มีชื่อเสียงระดับโลกมาช่วยส่งเสริมผ้าไทยอย่าง ลิซ่า Blackpink ที่ได้มาเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีคนหาซื้อชุดใส่ตามเป็นจำนวนมาก ถือเป็นการผลักดันผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลกอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องการให้กรมหม่อนไหมร่วมงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกจังหวัด ช่วยส่งเสริมผ้าไทยเอกลักษณ์ในแต่ละจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป” นายไชยา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี