เจ้าของที่สุดอัดอั้น! เจอแพะเพื่อนบ้านบุกสร้างความเสียหายในบ้าน ขี้เรี่ยราด ขโมยอาหารสุนัขกิน กัดกินพืชผลที่ปลูกไว้เสียหาย ทุกข์ทนนานกว่า 4 ปี เคยคุยกับเจ้าของแพะรับปากจะดูแล แต่ก็ยังเหมือนเดิม ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยคุยก็ไร้วี่แววการแก้ปัญหา หมดหนทางจึงวอนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายอรรถพล อายุ 34 ปี เจ้าของร้านขายวิทยุสื่อสาร ต.มาบตาพุด อ.เมืองระยอง จ.ระยอง ว่าได้ถูกเพื่อนบ้านปล่อยแพะที่เลี้ยงไว้เข้ามาในเขตที่ดินของตนสร้างความเสียหายนานหลายปีจนทนไม่ไหว เคยคุยกับเจ้าของ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูก็ไร้วี่แววทางออก

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังที่อยู่ดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องราวความจริง โดยเมื่อถึงร้านดังกล่าวอยู่ติดถนนสุขุมวิท มีเนื้อที่ 1 ไร่ครึ่ง เปิดเป็นร้ายขายอุปกรณ์วิทยุสื่อสารด้านหน้าถนน ด้านหลังปล่อยเป็นที่โล่งมีหญ้ารกทึบ มีร่องรอยทางเดินของแพะหลายจุด และอุจจาระของแพะตกเกลื่อนส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ขณะที่เจ้าของร้านพาดูพื้นที่ปรากฎว่าแพะกลุ่มดังกล่าวก็ปรากฎตัวบุกเข้ามากินหญ้าในพื้นที่โดยไม่มีเจ้าของแพะกลุ่มดังกล่าวเข้ามาดูแลไล่ออกไป

นายอรรถพล เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2562 ตนลงต้นกล้ามะม่วงไว้ในพื้นที่ 1 ไร่ครึ่ง ก็เจอกลุ่มแพะและวัวหลายตัวบุกเข้ามากัดกินจนเสียหายเรียบ จนแก้ปัญหาโดยการล้อมรั้วลวดหนามก็เอาไม่อยู่ พังลวดหนามเข้ามาเหมือนเดิม ซึ่งตนก็อดทนถูกแพะถูกวัวมาสร้างความเสียหายอยู่ตลอด เคยมีวัวออกไปถูกรถชนตายเจ้าของรถคิดว่าตนเป็นเจ้าของวัวจะถูกเอาเรื่องอีก ซึ่งสร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงตามหาเจ้าของสัตว์กลุ่มดังกล่าวจนเจอ ซึ่งเป็นชายชื่อนายบัง (นามสมมุติ) อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งอยู่ติดกันกับที่ดินของตน เคยเปิดใจคุยกัน ก็ได้คำตอบกลับมาว่าเป็นเรื่องปกติของสัตว์ มองว่าสัตว์ขี้ดีซะอีกจะได้เป็นปุ๋ย และก็บอกจะรับผิดชอบ และดูแลสัตว์ที่เลี้ยงว่าจะไม่ให้มายุ่งอีก แต่ก็ยังปล่อยให้เข้ามาในที่ของตน จนต้องไปแจ้งความไว้ที่ สภ.มาบตาพุดไว้ และเขียนคำร้องเรียนยังเทศบาลตำบลมาบตาพุด เรื่องของการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ แต่ก็ไม่สามารถหาทางออกให้ตนได้ ซึ่งตนก็อดทนเรื่อยมานาน ถึง 4 ปี

ล่าสุดแพะกลุ่มเดิมก็ได้บุกเข้ามาหาอาหารกิน กัดกินอาหารสุนัขถุงละ 20 กิโลไปหลายกระสอบ จนถุงคลุมหัวแพะวิ่งชนข้าวของในครัวพังเสียหาย แถมขี้เรี่ยราด ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ตนกับภรรยาต้องคอยมาฉีดน้ำล้าง มาเช็ดทำความสะอาด ความเสียหายที่เกิดขึ้นหลายปีที่ผ่านมาตนก็หมดเงินไปหลายแสนบาท  ซึ่งก็ทนไม่ไหวจึงโพสต์ระบายลงเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่บ่อยครั้ง ญาติและเพื่อนๆ ก็คอยให้กำลังใจ จึงอยากจะขอวอนสื่อช่วยตีแผ่เรื่องดังกล่าว และวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาเป็นตัวกลางหาทางแก้ไข หาทางออกร่วมกัน ---017