22 ธันวาคม 2566 จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชายสูงอายุ 2 คน รูปร่างอ้วน 1 คนและผอม 1 คน ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า โซลูน่า สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กง -9086 กรุงเทพมหานคร ตระเวนก่อเหตุลักขโมยอุปกรณ์ไฟฟ้าในร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่วันที่ 24-25 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ได้เต้าเสียบแบบสองหัวไป 140 ตัว มูลค่าความเสียหายประมาณ 20,000 บาท และวันที่ 20 ธ.ค.คนร้ายยังหวนกลับมาที่สาขานางรอง เพื่อหวังจะก่อเหตุอีกแต่เห็นรูปของตัวเองที่ถูกประกาศตั้งรางวัลนำจับ และโพส์ตเตือนภัยนำในโซเชียลด้วย
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.บ้านกรวด ชุดสืบสวน สภ.ประโคนชัย ออกสืบสวนหาข่าเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อค่ำวานนี้ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.บ้านกรวด และ สภ.ประโคนชัย สามารถจับกุม 2 คนร้ายได้ ขณะกำลังขับรถเก๋ง หมายเลขทะเบียน ภง 9086 กรุงเทพฯ คันที่ใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุลักทรัพย์เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม ซึ่งทั้งสองก็ยอมรับว่าได้ก่อเหตุลักขโมยของในร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าจริง และจากการตรวจค้นก็พบเต้าปลั๊กไฟ 2กล่องของกลางที่ขโมยไปด้วย จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปทำแผนที่ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดเหตุ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านกรวด
สอบถามนายสงวน (สงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี อ้างว่า ช่วงโควิดระบาดธุรกิจค้าขายที่ทำอยู่เกิดขาดทุน จึงหันมาลักขโมยของตามร้านค้าต่างๆ ในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เพื่อนำไปขายตามตลาดนัดที่กรุงเทพฯ ส่วนเต้าเสียบไฟที่ขโมยไปก็จะขายกล่องละ 200 – 300 บาท พอขายหมดก็จะก่อเหตุอีก ส่วนของที่ขโมยจากร้านเครื่องไฟฟ้าทั้งสองสาขาก็จะชดใช้คืนให้
ขณะที่นายนิธิวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ผู้ต้องหาอีกคน สารภาพว่า ตนรู้จักกับนายสงวนไม่ได้ทำงานอะไร เขาแค่ชวนมาด้วยก็มา ไม่ได้เจตนาจะลักทรัพย์แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ หลังสอบสวนก็ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นได้เเจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระ ทำความผิดพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร"
ด้านนางสาววรารัตน์ แจ้งประโคน ผู้จัดการร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้า สาขาบ้านกรวด กล่าวว่า สาเหตุที่รู้ว่ามีคนร้ายลักขโมยของ เนื่องจากทุกสาขาจะมีการตรวจเช็คสต๊อกสินค้า กระทั่งพบว่าสินค้าหายไปจึงไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนเห็นภาพขณะก่อนเหตุลักขโมยของในร้าน จึงได้ไปแจ้งความก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ และคิดว่าทั้งสองไม่ได้ก่อเหตุแค่ร้านอี๊ดการไฟฟ้า น่าจะลักขโมยที่ร้านอื่นด้วย อย่างไรก็ตามทางร้านทั้ง 7 สาขา ก็จะมีการติดกล้องวงจรปิดเพิ่มอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สุดทน! ร้านขายอุปกรณ์ไฟฟ้าประกาศจับโจรอ้วนผอม ขโมยของหลายครั้งยังลอยนวล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี