ปี 2566 รุก ไล่ ล่า‘อาชญากรออนไลน์’ เปิดข้อมูล CIB AOC แฉ Top 5 กลลวงมิจฉาชีพ ย้อนรอย 9 คดีสอบสวนกลางปิดเกมคนโกง
ปี 2566 โจรออนไลน์อาละวาดหนัก มิจฉาชีพมาทางโทรศัพท์ และสื่อสังคมออนไลน์ แค่คลิกก็เสร็จโจร โจรก้าวไว ตำรวจก็ต้องรุกไล่ต้องก้าวหน้ากว่า!!
ขณะที่ภัย “พนันออนไลน์” เข้าถึงง่าย แค่เข้าสื่อโซเชียลออนไลน์เปิดก็เจอ เด็ก - ผู้ใหญ่ คัดกรอง ล่อลวงหลอกล่อให้เสี่ยงโชควัดดวง ล่อใจให้ “ได้” ก่อนหลอกจนหลวมตัวเทหมดหน้าตักเข้าทางนายบ่อนออนไลน์ สุดท้ายคนเล่น “เสีย” แทบหมดตัว เป็นหนี้สิน
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ไม่รอช้า รุกหนัก ปี 2566 โดยแม่ทัพใหญ่ “พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง” เร่งเครื่องปราบ ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ( CIB AOC ) รวมถึงทลายเครือข่ายพนันออนไลน์แบบรุกฆาต
เพียง 3 เดือน สุดท้ายปลายปี สถิติการรับแจ้งคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในระบบ CIB AOC ตั้งแต่ 1 ตุลาคม – 30 ธันวาคม 2566 มากถึง 64,240 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 9,200 ล้านบาท
ขณะที่ศูนย์ CIB AOC เผยสถิติ 5 กลลวง อุบายโจรที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อมากที่สุด
อันดับแรก คือ การหลอกลวงซื้อ - ขาย สินค้าและบริการทางออนไลน์ แบบซื้อของไม่ได้ของ หรือสินค้าไม่ตรงปก
อันดับ 2 หลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ
อันดับ 3 หลอกลวงให้กู้เงินออนไลน์โดยมีลักษณะฉ้อโกง กรรโชก รีดทรัพย์
อันดับ 4 หลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์
และอันดับ 5 ข่มขู่ทางโทรศัพท์ให้เกิดความกลัว แล้วหลอกให้โอนเงินให้
เมื่อคดีเกิด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ทีมงาน “ผู้บัญชาการก้อง” สืบสวนสอบสวนจับจริง!
พาย้อน 9 คดี ทลายแก๊งโจรออนไลน์ ผลงาน รุก ไล่ ล่า ของตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)
1.ยุทธการทลายอาณาจักร “ซัว มาเฟียคาสิโนออนไลน์”
ตำรวจล่าอดีตตำรวจ 11 เม.ย. 66 “กองปราบฯ” เปิดยุทธการล้างบางเครือข่าย “สารวัตรซัว” เจ้าของเครือข่ายพนันออนไลน์รายใหญ่ ที่ใช้อาชีพตำรวจเบิกทาง แต่ก็หนีไม่พ้นตำรวจสอบสวนกลางสืบสวน จนนำไปสู่การออกหมายจับ “สารวัตรซัว” พร้อมพวกรวมทั้งหมด 114 คน ในข้อหาเกี่ยวกับการพนัน พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินได้มากกว่า 7,000 ล้านบาท
2.ทลายเครือข่าย เว็บพนัน FUN 88
กองปราบฯ ขยายผลเข้าทลายเว็บพนัน จากคดี “แอม ไซยาไนด์” ฆาตกรต่อเนื่องอย่างน้อย 14 ศพ สืบสวนสอบสวนพบมูลเหตุฆาตกรรมเลือดเย็น ล้างหนี้ เกี่ยวเนื่องเล่นพนันออนไลน์ผ่านเว็บ FUN 88
3.รวบแก๊งจีนดำ อ้างสำนักทรัพย์สินตุ๋นเทรดทอง
ตำรวจ ปอท. สืบสวนสอบสวนขยายผล พบพฤติกรรมอันตราย หลอกลงทุน ต้มตุ๋นเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนเปิดปฏิบัติการรวบยกแก๊งจีนดำ แอบอ้างสำนักทรัพย์สินฯ ต้มตุ๋นเทรดทองคำพบเงินหมุนเวียน 3 พันล้าน
4. กลลวงหลอกให้รัก ทลายแก๊งโรแมนซ์สแกม ตุ๋น 800 ล้าน
อันนี้ มุกเก่า แต่ยังหลอกได้ซ้ำ ๆ อุบายแก๊งชาวไนจีเรีย ปลอมโปรไฟล์เป็นหนุ่มสาวงานดี หน้าตาดี รวยสมบัติ ทำทีหลงรักหัวปักหัวปำ อยากใช้ชีวิตคู่ด้วย มีมรดกทรัพย์สินมากมายจะส่งมาให้แต่ติดขัดการขนส่ง ศุลกากรเอย ภาษีเอย ขอช่วยให้โอนเงินให้เพื่อนำของมีค่ามหาศาลมามอบให้ โอนไปหลายรอบยังไม่ได้สักที สุดท้ายโจรออนไลน์ที่มาในคราบคนคลั่งรักหนีหายไปพร้อมเงินที่เหยื่อโอนให้จำนวนมาก ตำรวจกองปราบสืบสวนจับยกแก๊ง 14 ชาวไนจีเรีย และคนไทย พบพฤติการณ์หลอกลวงให้รัก 4 ปี มีเงินหมุนเวียนออกนอกประเทศ 800 ล้านบาท
5. ทลายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ Shut down one billion Hybrid Scam เงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท (PIG BUTCHERING)
ตำรวจ ปอท. ตำรวจ ปอศ. และกองปราบ ตรวจค้นจับกุม 30 จุด 4 จังหวัด จับกุมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหลอกลงทุนออนไลน์ ไฮบริดสแกม (Hybrid Scam) จับ 2 ชาวจีน 7 คนไทย แก๊งโจรตีสนิทหลอกให้รัก แล้วชวนลงทุนเหรียญดิจิทัล โดยมีการปลอมเว็บไซต์แอปพลิเคชันเทรดเหรียญดิจิทัลเหมือนของจริง หลอกให้ผู้เสียหายโอนเหรียญดิจิทัล รวมเป็นเงินกว่า 13 ล้านบาท ก่อนยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สิน ตำรวจตรวจค้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินเป็นบ้านหรู 17 หลัง รถยนต์หรู 12 คัน พร้อมเงินสด มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท
6. จับแก๊งปลอมเว็บ เพจปลอม “ตำรวจสอบสวนกลาง” หลอกรับแจ้งความออนไลน์
ตำรวจ ปอท. สืบสอบขยายผลหลังพบเพจเฟซบุ๊กหน่วยงานราชการ “ปลอม” เกลื่อน โดยคนร้ายสร้างเพจ หรือเว็บไซต์ปลอม ทำเลียนแบบคล้ายหน่วยงานราชการ อ้างรับ “แจ้งความออนไลน์” ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือทางคดี ที่แท้หลอกให้คลิก หลอกคุยหลอกล่อชวนลงทุน ชวนเล่นพนันออนไลน์ ซ้ำเติมเหยื่อให้ถูกหลอกซ้ำซาก พบสร้างเพจปลอม เว็บปลอม ตำรวจสอบสวนกลางพ่วง สุดท้ายไม่รอดถูกตามจับได้พบเงินหมุนเวียน 7,000 ล้านบาท
7.อ้างสำนักพระราชวัง หลอกนับล้าน รวบคาสนามบิน
ตำรวจกองปราบดักรวบคาสนามบินสุวรรณภูมิ หนุ่มนามสกุลดัง หลอกลวงแอบอ้างสำนักพระราชวัง ลวงเจ้าของร้านอาหาร อ้างจะพาเจ้านายระดับสูงไปใช้บริการ ก่อนเรียกเก็บเงินค่าฉายพระรูป – เข็มที่ระลึกนับล้านบาท
8. ปฏิบัติการ “CIB Anti Online Scam” ขุดรากถอนโคนแก๊งชวนเทรด
ภัยออนไลน์ที่สร้างความเสียหายมากที่สุด คือหลอกลงทุนในระบบคอมพิวเตอร์ ปลายเดือนตุลาคม 2566 ตำรวจ ปอศ. เข้าค้น 21 จุด จับ 26 แก๊งคนร้าย ทลายแบบขุดรากถอนโคนมิจฉาชีพ พฤติการณ์สร้างเพจเฟซบุ๊กปลอม แบ่งกลุ่มหลอกลวงประชาชน ได้แก่ กลุ่มทำการโฆษณา กลุ่มชักชวนเหยื่อลงทุน กลุ่มหลอกลวงเหยื่อ และกลุ่มทำหน้าที่ยักย้ายถ่ายเทเงินในบัญชีผ่านบัญชีม้า ปลอมเพจเฟซบุ๊กของ “ร้านทองออโรร่า” เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โฆษณาผ่านเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย ก่อนจะมีการชักชวนให้ลงทุนในการเทรดหุ้น เงินหมุนเวียนพันล้าน
9. ปราบภัยหนี้นอกระบบ ตัดตอนแก๊งหลอกกู้เงินออนไลน์ ดอกร้อยละ 2,737 ต่อปี
มิจฉาชีพในคราบแหล่งเงินทุน อ้างกู้ง่าย ผ่านแอปพลิเคชัน จ่ายสบาย ดอกเบี้ยถูก ก่อนทวงโหด ตัดต่อภาพโพสต์ประจานเหยื่อ โดยในเดือนพฤศจิกายน 2566 ตำรวจ ปอท. เปิดปฏิบัติการ “CIB Anti Online Scam” อีกครั้ง ปราบเครือข่ายหลอกกู้เงินออนไลน์ ส่งกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 23 จุด ในพื้นที่ 10 จังหวัด จับยกแก๊ง 13 ราย เป็นระดับสั่งการ 2 ราย
พบการสร้างแอปฯ หลอกให้ลงทะเบียนกู้เงิน ดอกเบี้ยโหด คิดเป็นร้อยละ 2,737 ต่อปี หากหลงกลลงทะเบียนกู้จะถูกเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์มือถือ แถมได้เงินไม่ครบตามยอดกู้ ถูกหักสารพัด ลูกหนี้บางรายยังมียอดเงินที่ตนเองไม่กู้ ถูกโอนเข้ามาในบัญชีแล้วถูกบังคับให้ต้องชำระยอดเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยส่วนนี้เพิ่มอีกด้วยหากลูกหนี้รายใด ไม่สามารถชำระเงินกู้ที่กู้ยืมไว้ได้ จะถูกโทรศัพท์ข่มขู่ ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย หรือมีโทรศัพท์ติดต่อไปยังพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน พร้อมส่งข้อความทาง SMS แนบรูปภาพตัดต่อใบหน้าของผู้เสียหายไปให้ เพื่อทำให้เข้าใจว่าผู้เสียหายเป็นผู้จำหน่ายเสพติด หรือค้าประเวณี
ก้าวสู่ปี 2567 ภัยออนไลน์ยิ่งรุกคืบ สิ่งที่ประชาชนต้องการคือตัดตอนโจรออนไลน์อย่าให้เกิดใหม่ ขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก ตัดวงจรโจรหน้าใหม่ เมื่อประชาชนเสียหายต้องได้เงินคืน โดยมี “ตำรวจสอบสอบกลาง (CIB) ” เป็นความหวัง เป็นที่พึ่ง
เป้าหมาย วิชชั่น “ผู้บัญชาการก้อง” ทันสมัย ชัดเจน แน่วแน่ ตำรวจสอบสวนกลางต้อง รุก ไล่ ล่า มิจฉาชีพออนไลน์ต่อ ไม่หยุด ไม่แผ่ว เพื่อความสงบสุข ปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไทย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี