‘อัจฉริยะ’เซ็งดีเอสไอ หวั่น‘คดีหมู-ตีนไก่เถื่อน’เป็นมวยล้มต้มคนดู กลัวเรื่องเงียบหาย โร่พึ่งฝ่ายค้านยื่น‘รังสิมันต์ โรม’ประธานกมธ.ความมั่นคง ช่วยตรวจสอบ
16 มกราคม 2567 ที่กองคดีภาษีอากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อพาพยานปากสำคัญในขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่ ที่เคยได้ให้ข้อมูลกับกรมสอบสวนคดีพิเศษมาตั้งแต่ปี 2565 มาเข้ารับการคุ้มครองพยาน เนื่องจากเคยให้ข้อมูลจนสามารถขยายผลจับกุมขบวนการของ “เฮียเก้า” ได้ แต่สุดท้ายพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไม่นำหลักฐานประกอบไว้ในสำนวน อีกทั้งยังถูกหนึ่งในผู้ต้องหาขบวนการสวมสิทธิ์ตีนไก่ที่เข้ามอบตัวแล้ว ขู่ฆ่ามาตั้งแต่ปี 2565 แต่ยังถูกดีเอสไอเรียกเข้ามาให้ข้อมูล จึงเห็นว่ามีความไม่ชอบมาพากล และเป็นห่วงความปลอดภัย โดยจะพาเข้าพบ พ.ต.อ.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าชุดสอบสวนคดีหมูเถื่อนด้วย
“ขณะนี้เหลือความเชื่อมั่นในดีเอสไอ เหลือไม่ถึง 30% มีเพียงพนักงานสอบสวนบางกลุ่มที่ยังเชื่อใจไม่กี่คน เช่น พ.ต.อ.ณฐพล เนื่องจากข้อมูลทุกอย่างที่ดีเอสไอดำเนินการจับกุมขบวนการค้าสัตว์เถื่อนกว่า 80% มาจากผม และเชื่อมโยงจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ทั้งข้าราชการระดับสูง นักการเมือง แต่ผลที่เกิดขึ้นทำให้เริ่มไม่เชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรม และดีเอสไอ เนื่องจากเห็นตัวอย่างจากกรณีขบวนการค้าหมูเถื่อนก่อนหน้านี้ที่กระบวนการเข้าตรวจสอบชะงักกลางคัน และไม่เดินหน้าต่อทั้งที่มีพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึงอดีตรัฐมน ตรี ซึ่งเป็นผู้บงการรายใหญ่ในกระบวนการ อีกทั้งยังไม่มีการเข้าตรวจค้นห้างสรรพสินค้าดัง ทั้งที่มีการนำหมูเถื่อนไปไปขายให้ประชาชนเช่นกัน จนสุดท้ายเงียบหายไป” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า ตนมองว่าคดีสวมสิทธิ์ตีนไก่เถื่อนนี้ก็เชื่อว่ามีแนวโน้มจะเงียบหายไปด้วยเช่นกัน เพราะมีการใช้อิทธิพลจากนักการเมืองเข้ามาแทรกแซง วิ่งเต้น และรับผลประโยชน์กัน จึงเห็นว่าคงต้องพึ่งพาฝ่ายค้าน ในวันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม นี้ จึงจะนำหนังสือถ้าหลักฐานทั้งหมดไปยื่นให้กับนายรังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดนไทยยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ตรวจสอบและกดดันการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเอาผิดผู้กระทำผิดให้ได้ต่อไป
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า คดีในลักษณะดังกล่าวที่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิดมักจะส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูล แต่กลับไม่ดำเนินคดีอาญา ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าหากดำเนินคดีอาญาผู้กระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งหมด เนื่องจากมีพยานหลักฐานแน่นหนาเพียงพอ พร้อมกันนี้ขอฝากไปถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ว่า อย่าทำมวยล้มต้มคนดู นอกจากนี้ยังอยากให้นายกรัฐมนตรีได้เข้ามาติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี