'เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม' สั่งปลดไวยาวัจกร-กรรมการวัด 4 รายพ้นหน้าที่เปิดทางสอบยักยอกเงินวัด ด้าน 'นายอำเภอ' นำทีมสาบานตนหน้าองค์พระธาตุพนม เร่งสางปมยักยอกเงินวัด

เมื่อวันที่ 4 ก.พ.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับการตรวจสอบ ความโปร่งใส ในการบริหารจัดการงานของวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งนายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม ซึ่งเป็นลูกพระธาตุพนมโดยกำเนิด พร้อมด้วยคณะทำงาน ยังคงเดินหน้าทำงาน ร่วมกับตัวแทนชาวบ้าน และสำนักงานคณะกรรมการป้องและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  (ป.ป.ช.) ทำการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารจัดการดูแลผลประโยชน์ของวัดพระธาตุพนมฯ 

หลังก่อนหน้านี้มีตัวแทนชาวบ้านร้องเรียนปัญหาการยักยอกเงินวัด รวมถึงทุกปีมีการแสวงประโยชน์ ในการจัดงานนมัสการองค์พระธาตุพนม โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17 -25 ก.พ.2567 (ขึ้น 8 ค่ำ-แรม 1 ค่ำ เดือน 3)  จึงต้องมีการจัดระเบียบให้มีความชัดเจนโปร่งใส  ก่อนจะถึงวันงาน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาค เนื่องจากมีกระแสข่าวดังผ่านสื่อ ว่ามีขบวนการมาเฟีย ฉวยโอกาสหากินกับวัด สร้างความเสื่อมเสียตามมา กระทั่งพระธรรมวชิรโสภณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม/ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 ได้ลงนามคำสั่งให้ปลดไวยาวัจกรวัด หยุดปฏิบัติหน้าที่ 3 ราย รวมทั้ง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการด้วยอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย ลงนามคำสั่งวันที่ 1 ก.พ.2567 เพื่อเปิดทางให้ตรวจสอบเกี่ยวกับปัญหายักยอกเงินวัดฯ

ล่าสุด นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม พร้อมคณะทำงาน ได้ออกมาสาบานตนต่อหน้าองค์พระธาตุพนม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ตามประเพณีความเชื่อ ในการทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารจัดการรายได้ของวัดพระธาตุพนมฯ ต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส พร้อมกล่าวคำสาบาน “หากมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ ขอให้มีอันเป็นไป”

นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบข้อมูลว่า บัญชีธนาคารของวัด รวม 5 บัญชี มีการเคลื่อนไหวปกติหรือไม่  หลังมีการตั้งคณะทำงานตรวจสอบ อีกทั้งทางไวยาวัจกรวัดชุดเดิม ไม่สามารถชี้แจงบัญชีรายรับ-รายจ่ายของวัดได้ ถือว่ามีข้อพิรุธ ที่จะต้องดำเนินการตรวจสอบ และนำคณะทำงาน เข้ามาบริหารจัดเก็บเงินบริจาควันต่อวัน จนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัจกร ชุดใหม่

นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่า ปัญหาการแต่งตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัจกรวัด ที่ผ่านมาเป็นการผูกขาดสืบทอดกันมาหลายสิบปี ไม่มีการบันทึกวาระการประชุม ทำให้เป็นปัญหายืดเยื้อมานาน ตนในฐานะลูกหลานพระธาตุพนม บ้านเกิดอยู่อำเภอธาตุพนม ได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้าน ให้มีการตรวจสอบการบริหารจัดการรายได้ของวัด เนื่องจากมีความผิดปกติหลายอย่างในการดูแลบัญชีรายรับ-รายจ่าย

โดยมีการทำหนังสือแจ้งให้คณะกรรมการ ไวยาวัจกรวัดฯ ชี้แจงสถานะบัญชีของวัดล่าสุด แต่ไม่มีความชัดเจน จึงได้หารือกับทางเจ้าอาวาส พร้อมลงนามคำสั่งให้ไวยาวัจกร ที่ดูแลการเงินหยุดทำหน้าที่ และรอผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช.ที่เข้ามาเก็บหลักฐานหมดแล้ว อีกทั้งตนพร้อมทีมงานได้สาบานตน ที่จะตรวจสอบปมยักยอกเงินให้มีความโปร่งใส เงินทุกบาททุกสตางค์ จะต้องเข้าวัดตามเจตนารมณ์ผู้บริจาค และต้องชี้แจงตรวจสอบได้ อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากพบว่ามีคนกระทำผิดจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เมื่อมีการตรวจสอบเป็นที่ชัดเจน จะตั้งคณะกรรมการ ไวยาวัจกรชุดใหม่ เข้ามาทำงานทันที มีวาระ 4 -5 ปี ตัดปัญหาผูกขาด

ขอยืนยันว่าทุกอย่างที่ตนดำเนินการ เพื่อชาว จ.นครพนม รวมถึงพลังศรัทธา ที่มีความศรัทธาเลื่อมใสต่อองค์พระธาตุพนม ไม่ให้กลุ่มแสวงประโยชน์เข้ามามีส่วนได้ส่วนเสียในวัด และรายได้จะต้องเข้าวัดทั้งหมด พร้อมตรวจสอบได้ตลอดเวลา