ดีเอสไอออกหมายจับ 9 ผู้ต้องหา ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล พบเป็นกรรมการและนอมินี2 บริษัท เครือข่าย “เฮียเก้า”ค้าหมูเถื่อน พบหลักฐานจ่ายส่วยเดือนละ 4 แสนบาท ให้เจ้าหน้าที่รัฐ รวบตัวแล้ว 3 ราย
เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สั่งการให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 61/462 หมู่ 6 ซอยบางใหญ่ซิตี้ 6/3 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และบริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 77 หมู่ 4 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีการตรวจค้นเอกสารและพยานวัตถุต่างๆ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีพิเศษที่ 127/2566 หรือคดีเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดกว่า 10,000 ตู้ ว่า พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า ภายหลังการตรวจค้นดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลทางคดีอย่างต่อเนื่อง โดยได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทฯ และบางส่วนรับหน้าที่เป็นนอมินี5 ราย
สำหรับทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด 3.นายกิตติ ราชเนตร 4.นายภูวดล เกลียวจยกูลและ 5.นายพลภัทร สุขหน้าไม้
นอกจากนี้ได้ออกหมายจับนิติบุคคลอีก 4 หมายจับ ได้แก่ 1.บริษัท พีซี ฟูดส์ เซ็นเตอร์ จำกัด 2.บริษัท มั่นคง โฟรเซ่น จำกัด 3.บริษัท โคลเวอร์ซัพพลาย จำกัด และ 4.บริษัท โปรดักส์-มี จำกัด รวมแล้วได้ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 หมายจับ
ส่วนสาเหตุที่ได้ออกหมายจับนั้น เนื่องจากทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องกับตู้คอนเทเนอร์ 90 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยเกี่ยวข้องจำนวน 25 ตู้ ซึ่งภายในบรรจุสินค้าแช่แข็งประเภทหมูและไก่ โดยสินค้าไม่ได้เปิดตู้ออกของที่ท่าเรือฯ แต่นำเข้ามาในเขตปลอดอากร มีการอำพรางขายกระจายทั่วประเทศ
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับบุคคลในหมายจับนั้น ถือเป็นนายทุนรายใหญ่กว่านายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า (ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีตีนไก่สวมสิทธิ) เนื่องจากกลุ่มคนตามหมายจับมีการจ่ายส่วยให้บุคคลที่ถูกระบุว่า “เฮียเก้า” โดยการจ่ายผ่านบัญชีธนาคาร ยอดเงินเดือนละ 400,000 บาท พบรายการการจ่ายเงินเพียง 2 เดือนในห้วงปี 2565 และที่สำคัญชิ้นส่วนสุกรครึ่งประเทศอยู่ที่โรงงานของพวกเขา
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายประกร มหากิจโภคิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด หรือ P-MART โดยนายประกร มีพฤติการณ์รับรู้การจ่ายส่วยต่างๆ 2.น.ส.ชนิสรา มหากิจโภคิณ กรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด และ 3.นายพลภัทร สุขหน้าไม้ โดยในส่วนของนายพลภัทร พบว่ามีชื่อเป็นผู้จ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ คือเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์ โดยจ่ายส่วยแบบรายเดือนและเป็นการจ่ายรายตู้
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 ราย ทางศูนย์สืบสวนดีเอสไอ ได้สะกดรอยและการข่าว ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้จากการตรวจค้นบริษัทฯ เรายังพบเอกสารจดบันทึกรายการจ่ายเงิน หรือบัญชีส่วย บัญชีธนาคาร ซึ่งพบผู้เกี่ยวข้องจำนวนมากทั้งนายตำรวจ ทหาร ปลัด เจ้าหน้าที่ของรัฐ และสื่อมวลชนบริเวณจังหวัดชายแดนที่บริษัทมีการส่งออกและรับสินค้าข้ามแดนอีกด้วย ซึ่งจะมีการเชิญบุคคลที่อยู่ในบัญชีส่วยทั้งหมดมาสอบปากคำในฐานะพยานต่อไป
“จากการเข้าตรวจค้นบริษัท พีซี โฟรเซ่น จำกัด และ บจก.พีมาร์ท ซุปเปอร์สโตร์ ดีเอสไอจะเน้นการปราบปรามการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนนานาชนิดโดยกลุ่มบริษัทเหล่านี้ เพราะอยู่ในพื้นที่เขตปลอดอากร อีกทั้งยังพบว่าชิ้นสุกรเถื่อนล็อตสุดท้ายผ่านกลุ่มบริษัทเหล่านี้ด้วย” พ.ต.ต.ณฐพล กล่าว
พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย จะถูกดำเนินคดีในฐานกระทำความผิดโดยหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียอากรโดยเจตนาจะฉ้ออากรที่ต้องเสียสำหรับของนั้นๆ โดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดหรือข้อห้ามอันเกี่ยวกับของนั้นตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 243 มาตรา 244 และนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 31 ประกอบมาตรา 68 ฐานฟอกเงิน และสมคบกันฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 5 มาตรา 7 มาตรา 8 และมาตรา 9 ประกอบมาตรา 60 มาตรา 61 ฐานเป็นอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 ประกอบมาตรา 83
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางชุดสืบสวนสะกดรอยและการข่าว ดีเอสไอ เตรียมนำตัวผู้ต้องหารายแรกจากที่จับกุมได้ 3 ราย ภายหลังเสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกจับกุม ส่งมอบให้กับคณะพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีคุมตัวไว้สอบปากคำที่ห้องพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ดีเอสไอ ถนนแจ้งวัฒนะ ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี