ชายชาวอุดรฯเสพยาล่าเพื่อนรักทั่วเมือง เจอตัวตีไม่ยั้ง อ้างแค้นขโมยพระ

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 18 มีนาคม 2567 ร.ต.ท.ถิรโยธิน ทรัพย์สิน รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งจากคนที่มาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ ว่า มีเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บหนัก นอนปางตายอยู่บนลู่วิ่งรอบหนองประจักษ์ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจ และกู้ภัยส่งเสริมธรรม ไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบคนก่อเหตุทราบชื่อในเวลาต่อมา คือ นายสนอง อายุ 51 ปี หรือนายเอ็ม กำลังจะวิ่งหนี ตำรวจตามรวบตัวเอาไว้ได้ ส่วนบริเวณลู่วิ่งรอบหนองประจักษ์ พบคนบาดเจ็บทราบชื่อคือนายมานะ อายุ 53 ปี ที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดเต็มหน้า แขนทั้ง 2 ข้างหัก ใกล้กับคนเจ็บพบจักรยานล้มอยู่ และราวเหล็กกั้นมีรอยเลือดเป็นทางยาว เจ้าหน้าที่รีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น แล้วนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้การช่วยเหลือเร่งด่วน โดยขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยคนเจ็บ นายเอ็มก็นั่งดูเพื่อนที่ตนเองทำร้ายอย่างไม่แยแส เพราะแค้นที่เพื่อนรักขโมยสิ่งของไป

นายเอ็ม กล่าวว่า ตนและนายมานะเป็นเพื่อนรักกัน ไปไหนไปด้วยกัน นอนด้วยกัน และเรา 2 คน มีอาชีพเก็บของเก่าขาย วันนี้ตามหานายมานะทั้งวัน เดินหาทั่วเมือง เพราะโกรธที่ขโมยพระเครื่องไป 3 องค์ มีหลวงพ่อคูณ หลวงพ่อฤาษี และอีกองค์เขาแขวนคออยู่ ตนอยากจะมาถามเขา หาอย่างไรก็ไม่เจอ จนมาเจอโดยบังเอิญที่หนองประจักษ์ เขากำลังปั่นจักรยานอยู่ ตนก็ถือไม้ดักหน้าถามว่าขโมยพระไปทำไม ไหนว่าเป็นเพื่อนรักกัน เขาก็บอกว่าอย่ามาใส่ร้ายไม่ได้เอาไป จังหวะนั้นนายมานะ ดึงมีดจะทำร้าย ตนมีท่อนไม้อยู่แล้ว ต่างคนต่างสู้กัน ตนใช้ไม้กระหน่ำตีไม่ยั้ง ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง นายมานะพยายามยึดราวเหล็กหนี ตนก็วิ่งตีไปเรื่อยๆจนล้มลง มันแค้นมาก เป็นเพื่อนกันมาขโมยของกันแบบนี้ต้องเอาให้ตายถึงจะสาสม

นายเอ็ม สารภาพว่า ตนเสพยาบ้ามาจริง เสพแค่ 1 เม็ด ไม่ถึง 5 เม็ด เพราะจะได้มีแรงเดินหาเพื่อนแสบคนนี้ ยอมรับมีหลอนๆบ้าง เพราะแค้นเพื่อนรักมาก ต่อมาตำรวจควบคุมนายเอ็มไปยัง สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งข้อหา “ทำร้ายร่างกาย” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

-005