สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เหนือยังวิกฤตระดับสีแดง วัดค่าได้ทะลุ 237 มคก. ภาพรวมทั้งประเทศ 23 จังหวัด เหนือ-อีสาน ค่าฝุ่นมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ส่วนค่าจุดความร้อนภาคเหนือยังเพิ่มต่อเนื่อง นายกฯยันรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเร่งแก้ฝุ่น PM2.5-ไฟป่าจุดความร้อน วอนประชาชนช่วยดูแลพื้นที่ สั่ง 2 รมต. “มท.-สธ.” ลงพื้นที่กำกับแก้ปัญหา ย้ำดูแลกลุ่มเปราะบาง ระดมทุกมาตรการ ส่วนสภาพอากาศร้อนจัด “เหนือ-กลาง”ร้องตับแตก อุณหภูมิสูงสุด 42-43 องศา ส่วนกทม. 39 องศา ฮีทสโตรกคร่า 2 ศพที่ “อุดรฯ-สมุทรสงคราม”
เมื่อวันที่ 8 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดทั่วไป มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
เตือนพายุฤดูร้อน-ลูกเห็บตกถึง11เมย.
ขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ช่วงกลางวันของวันนี้ (8 มีนาคม) ทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับช่วงวันที่ 9-11 เมษายน จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกเคลื่อนผ่านประเทศเมียนมาและผ่านภาคเหนือตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในระยะแรก มีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป
เหนือ-กลางร้อนจัดทะลุ43องศา
พยากรณ์อากาศตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 9 เมษายน ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฟ้าหลัว มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ลมกระโชกแรงบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 39-43 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัด มีฟ้าหลัว มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 มีลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก อุณหภูมิสูงสุด 38-41 องศาเซลเซียส ภาคกลาง อากาศร้อนถึงร้อนจัด ฟ้าหลัว มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ลมกระโชกแรง อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส
กรุงเทพฯ-ใต้39องศา
ภาคตะวันออก อากาศร้อน มีฟ้าหลัว อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 มีลมกระโชกแรง อุณหภูมิสูงสุด 34-41 องศาเซลเซียส ภาคใต้ อากาศร้อนโดยทั่วไปตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงเทพและปริมณฑล อากาศร้อน มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 35-39 องศาเซลเซียส
ฮีทสโตรคร่าชายอุดรฯวัย57ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนว่า ร.ต.อ.เจนวัธน์วิทยรติโชติตระกูล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งมีคนเสียชีวิตที่บ้านอุดมพัฒนา หมู่ 2 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเข้าไปตรวจสอบพบศพ นายสมจิตร อายุ 57 ปี ตรวจสอบไม่พบบาดแผลร่องรอยถูกทำร้ายร่างกาย แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง คาดว่าเกิดจากอากาศที่ร้อนจัด เนื่องจากอุณหภูมิที่จ.อุดรธานีสูงถึง 43-44 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดฮีทสโตรกเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนญาติไม่ติดใจจึงในการเสียชีวิตจึงมอบศพให้นำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ร้อนจัดคร่าตา76ดับสลดคาบ้าน
วันเดียวกัน พ.ต.ต.ชุติมา บรรจงปรุ สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงครามรับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตในบ้านพักพื้นหมู่ 8 ต.แหลมใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงครามเข้าตรวจสอบที่บ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง หลังคากระเบื้อง พบศพนายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 76 ปี สภาพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 วัน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สอบถามนายประจวบ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี น้องชายผู้ตายเผยว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวคือ ความดันสูง อยู่ตามลำพัง ก่อนเกิดเหตุ ตนมาเยี่ยม เห็นบ้านปิดอยู่ได้กลิ่นเหม็นจึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ พบพี่ชายเสียชีวิตแล้ว สอบสวนเบื้องต้นคาดว่าด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้นายสมศักดิ์ซึ่งเป็นโรคความดันโลหิตสูง เกิดเป็นฮีสโตรกเสียชีวิต จึงส่งศพไปชันสูตรและสอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
รบ.เร่งแก้ฝุ่นไฟป่า
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลจากการทำงานอย่างหนัก ทำให้จุด hot spot น้อยลงกว่าปีที่แล้วมาก และสถานการณ์ PM 2.5 ในภาคเหนือล่าสุด พบว่าจุดกำเนิด hot spot ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากประเทศไทย โดยมีจำนวน hot spot ในเมียนมากว่า 7,600 จุด ในลาวกว่า 5,000 จุด ในไทย 1,600 จุด ดังนั้น ปัญหา PM 2.5 ปัจจุบันมีสาเหตุหลักมาจากฝุ่นควันข้ามพรมแดน ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ตัดสินใจดำเนินการตามขั้นของแผนการจัดการปัญหาวิกฤตมลภาวะทางอากาศ ด้วยการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย และเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉินอัคคีภัยไฟป่า รวม 5 อำเภอ มุ่งเป้าไปที่พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงในบางตำบลภายในเขต 5 อำเภอที่ส่วนใหญ่มีพรมแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเร่งเปิดทางช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ด้านสาธารณสุขให้เข้าถึงพื้นที่ได้เร็วที่สุด
ส่ง2รมต.ตรวจไฟป่าเชียงใหม่
ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลังให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ไฟป่าที่จ.เชียงใหม่ยังรุนแรง จนต้องประกาศเขตภัยพิบัติใน 6 อำเภอว่า รองนายกฯรายงานมาให้ทราบแล้ว และได้หารือกับปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่า วันที่ 7 เมษายนมีจุดความร้อนกว่า 9,000 จุด ที่ประเทศเมียนมา กระทรวงสาธารณสุขได้แจกหน้ากากอนามัยในพื้นที่ และช่วงเช้าวันนี้ (8 เมษายน) พบกว่า 7,000 จุด ซึ่งวันที่ 9 เมษายน รมว.สาธารณสุข และรมช.มหาดไทย จะลงพื้นที่ไปดูเหตุการณ์ด้วยตัวเอง
นายกฯยันรบ.เร่งแก้ฝุ่นทุกมิติ
นายเศรษฐายังกล่าวยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจเรื่องฝุ่น พยายามเต็มที่ทุกมิติเพื่อแก้ปัญหาให้เร็วและยั่งยืนที่สุด ทั้งนี้ ทราบดีถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 และมุ่งมั่นแก้ปัญหารอบด้าน ทั้งนี้ มาตรการด้านสุขภาพ จังหวัดเตรียมการเรื่องห้องปลอดฝุ่น การจัดหาหน้ากากอนามัย และตนย้ำให้ดูแลกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ รวมทั้งให้วางมาตรการเพื่อตรวจความเสี่ยงป่วยมะเร็งปอดด้วย ส่วนเรื่องไฟป่า จ.เชียงใหม่ ได้ใช้ทุกมาตรการป้องกันการเผาป่าและไฟป่า ใช้เครื่องบินฝนหลวงบรรเทาสถานการณ์ ใช้มาตรการด้านอาชีพและตั้งรางวัลนำจับผู้เผาป่า แต่ก็ยังพบการเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งเข้าพื้นที่เพื่อดับไฟ แต่ยังมีปัญหาการเผาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้อำเภอชายแดนมีค่า PM2.5 สูงมากนี่คือปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลต้องขอความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน
จุดความร้อนไทยพุ่ง1,607จุด
สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) เมื่อวันที่ 7 เมษายนว่า ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,607 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 694 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 386 จุด พื้นที่เกษตร 289 จุด ส.ป.ก. 126 จุด แหล่งชุมชนและอื่น 99 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 13 จุด จังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนมากที่สุดคือ แม่ฮ่องสอน 295 จุด ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนต่อเนื่องสูงสุดยังคงเป็นเมียนมา 7,612 จุด ตามด้วยลาว 5,035 จุด ไทย 1,607 จุด กัมพูชา 953 จุด เวียดนาม 606 จุด และมาเลเซีย 196 จุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี