nn บมจ.ไทยออยล์...คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์นี้ (29 เม.ย.-3 พ.ค. 2567)...โดยระบุว่าราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มย่อตัวลงเนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางปรับลดลงภายหลังความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านยังคงอยู่ในวงจำกัด และการโจมตีตอบโต้ของทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังเพื่อหวังผลเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น ทั้งนี้ ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากการที่สหรัฐฯ อนุมัติวงเงินช่วยเหลือทางการทหารครั้งใหม่แก่ชาติพันธมิตรขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยในระดับที่สูง ซึ่งจะกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตามตลาดยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขทางเศรษฐกิจของยุโรปที่มีแนวโน้มฟื้นตัวซึ่งสอดคล้องกับสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นเช่นเดียวกัน...ไทยออยล์...คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 78-88 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวที่กรอบ 83-93 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล...
nnบีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอน วีซี) บริษัทเงินร่วมทุนของธนาคารกสิกรไทย ร่วมกับ Solar United Network Group (SUN Group) ผู้นำพลังงานสะอาดแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากอินโดนีเซียปิดดีลระดมทุน Series A จำนวน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อยอดความสำเร็จให้กับ ION Energy (ION) สตาร์ทอัพพลังงานโซลาร์สัญชาติไทย พร้อมผนึกความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าธนาคารกสิกรไทย ขยายบริการอย่างครอบคลุมเพื่อให้ลูกค้าทั้งรายย่อยและธุรกิจสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดแบบครบวงจรในราคาที่เหมาะสมพร้อมมาตรฐานคุณภาพ...
nn กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เร่งตรวจสอบกรณีผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซธรรมชาติได้ตามเงื่อนไขในสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติ (Shortfall) ของ บมจ. ปตท. เพิ่มเติมจากงวดแรก 4,300 ล้านบาท...ซึ่ง กกพ.พบว่า...ปี 2556 - 2663ยังมีส่วนต่างราคา Shortfall ที่ ทางปตท. ซื้อก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทย แต่ยังไม่ได้สะท้อนเข้าเป็นส่วนลดตามสูตรราคาก๊าซฯ เฉลี่ยรวม 3 แหล่ง (Pool Gas) ประมาณ 4,700 ล้านบาท...ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการตรวจสอบการส่งผ่านราคาก๊าซธรรมชาติ จะมีการประชุมเพื่อพิจารณากรณีตัวเลขมูลค่า Shortfall ที่เกิดขึ้น ก่อนสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ และนำเสนอให้ บอร์ด กกพ. มีมติแจ้งไปยัง ปตท.ต่อไป หากปตท.ไม่เห็นด้วยสามารถยื่นอุทธรณ์ได้...ซึ่งอาจจะนำมาลดต้นทุนค่าไฟฟ้างวดสุดท้ายของปี 2567 (ก.ย.-ธ.ค.2567) ได้ประมาณ 0.078 บาทต่อหน่วย หรือ 7.8 สตางค์…ก่อนหน้านี้ บอร์ด ปตท.มีมติยอมจ่ายค่า Shortfall มูลค่า 4,300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่จัดเก็บจาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กรณีผลิตก๊าซฯ จากแหล่งเอราวัณไม่ได้ตามสัญญา และต้องจ่ายค่าเรียกรับจากผู้ขายก๊าซธรรมชาติในแต่ละวัน (Shortfall) ให้แก่ ปตท. ตั้งแต่ประมาณกลางปี 2564 จนถึงช่วงหมดสัญญาสัมปทานวันที่ 23 เม.ย.2565 ปตท.มีการอุทธรณ์แต่ กกพ.ยกคำอุทธรณ์ โดย กกพ.ได้นำเงินค่า Shortfall มาลดต้นทุนค่าไฟฟ้าเอฟที ในงวดเดือน ม.ค.-เม.ย. 2567...โดยค่าเอฟที ขายปลีกงวดพฤษภาคม-สิงหาคม 2567 เท่ากับ 39.72 สตางค์ ต่อหน่วย สะท้อนแนวโน้มต้นทุน 19.21 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยชําระคืนภาระต้นทุนคงค้างที่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงินมาเพื่อตรึงค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือนกันยายน 2564-ธันวาคม 2566 โดยทยอยคืนหนี้ กฟผ. ประมาณ 7 งวดงวดละ 14,000 ล้านบาท หรือ 20.51 สตางค์ต่อหน่วย โดยคาดสิ้นเดือนสิงหาคม 2567 จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. รับภาระแทนประชาชนคงเหลืออยู่ที่ 85,689 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ทําให้ค่าไฟฟ้างวดนี้ (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงที่เท่ากับ 4.18 บาทต่อหน่วย...
nn อย่างนี้ต้องเรียกว่าพีคในพีคจริงๆๆ....เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2567 เวลา 20.51 น. ความต้องการพลังไฟฟ้าสูงสุด (ไฟพีค) ในระบบทั้ง 3การไฟฟ้า มีค่าเท่ากับ 36,356.1 เมกะวัตต์ซึ่งทำลายสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในระบบ(System Peak) ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่22 เมษายน 2567 เวลา 20.58 น. มีค่าเท่ากับ 35,830 เมกะวัตต์...ทั้งนี้ก่อนหน้านี้มีไฟพีคเกิดขึ้นแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง ภายในเดือนเมษายน...ครั้งที่ 1 เกิดขึ้นวันที่ 1เมษายน 2567 เวลา 21.00 น. มีค่าเท่ากับ 33,340.1 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นวันที่2 เมษายน 2567 เวลา 20.51 น. มีค่าเท่ากับ33,827.1 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 3 เกิดขึ้นวันที่ 4 เมษายน 2567 เวลา 21.00 น. มีค่าเท่ากับ 34,196.5 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 4เกิดขึ้นวันที่ 5 เมษายน 2567 เวลา 22.22 น.มีค่าเท่ากับ 34,277.4 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 5เกิดขึ้นวันที่ 6 เมษายน 2567 เวลา 20.54 น.มีค่าเท่ากับ 34,656.4 เมกะวัตต์ ครั้งที่ 6เกิดขึ้นวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลา 20.58 น. มีค่าเท่ากับ 35,830 เมกะวัตต์...โดยไฟพีคครั้งแรกของปี 2567 ที่เกิน 30,000 เมกะวัตต์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 19.26 น. มีค่าเท่ากับ 30,849.90 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม มา 1,997.90 เมกะวัตต์ และครั้งที่ 2เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2567 เวลา 19.47 น. มีค่าเท่ากับ 32,704 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้นจากไฟพีคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประมาณ 1,854 เมกะวัตต์...ทั้งนี้ จากประมาณการณ์ของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานชาติ (สนพ.) คาดว่าค่าไฟพีคสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 35,000-36,000 เมกะวัตต์ รวมถึงประเมินว่า ปี 2567จะมีแนวโน้มการใช้ไฟอยู่ที่ 210,170กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (GWh) หรือเพิ่มขึ้น 3.1% จากปี 2566...nn
กระบองเพชร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี