กะเหรี่ยงปิดล้อมยิงถล่มทั้งคืน
‘เมียวดี’ยังเดือด!
เมียนมาส่งเครื่องบินทิ้งบอมบ์สู้
ป้องกันฐานที่มั่นสุดท้าย
ไทยตรึงกำลังเข้มแม่สอด
สถานการณ์สู้รบชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งเมียวดี ยังเดือดทั้งคืน “กองทัพกะเหรี่ยง”เปิดศึกปิดล้อม ใช้โดรน ทิ้งบอมบ์ ค่ายทหารเมียนมา
พัน.ร.275 กองทัพเมียนมาฮึดสู้ใช้ปืนใหญ่ถล่ม-ส่งเครื่องบิน“มิกซ์-29” ทิ้งระเบิด ป้องกันฐานที่มั่นสุดท้าย ในเมียวดี หน่วยความมั่นคงไทย เกาะติดใกล้ชิดยังไม่พบบินล้ำแดน ยังลาดตระเวนปกติ ขณะที่ทหารไทยพร้อมรถหุ้มเกราะตรึงกำลังชายแดนแม่สอด หลังเกิดยิงสู้รบทั้งคืนในเมียวดีหลายครั้ง ชาวเมียนมาจำนวนมากต่อคิวหนีสงครามขอเข้าไทย
ความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับ ฝ่ายทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU)และกองกำลังปกป้องประชาชน(PDF)ที่บ้านปางกาน ฝั่ง จ.เมียวดี สหภาพเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย จนต่อ มาทหารกะเหรี่ยง KNUและPDF สามารถบุกเข้ายึดกองบัญชาการยุทธวิธีและค่ายทหารเมียนมาในเมืองเมียวดีนั้น
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2567 พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู แจ้งว่าสถานการณ์ขณะนี้ เริ่มมีการเข้าโจมตีตั่งแต่ช่วงเช้านี้มีเสียงปืนการปะทะ ทั้งอาวุธ ปืนเล็ก ปืนกลและเสียงระเบิด ดังต่อเนื่อง และกลุ่มควัน ซึ่งก่อนหน้านี้ มีการปะทะ เสียงระเบิดดังตลอดคืน โดยเมื่อคืนวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา กองกำลัง ชนกลุ่มน้อย กลุ่มต่อต้านได้ปิดล้อม และใช้โดรนทิ้งระเบิด ที่ตั้งของทหารเมียนมา พัน.ร.275ค่ายผาซอง ซึ่งเป็นฐานสุดท้ายในตัวเมืองเมียวดี
โดยทหารเมียนมาได้ใช้ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มิลลิเมตร และอากาศยานโจมตี เพื่อป้องกันฐานที่มั่น ตลอดทั้งคืน ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ในพื้นที่โดยรอบที่ตั้งของ พัน.ร.275 หลายแห่งและคาดว่าในวันนี้กลุ่มต่อต้านฯน่าจะมีความพยายามเข้าโจมตีเพื่อยึดฐานที่แห่งนี้ให้ได้
พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู สั่งการให้ทหารฉก.ราชมนู ออกลาดตระเวนตลอดริมแม่น้ำเมย ชายแดนแม่สอด-เมียวดี เพื่อเฝ้าระวัง และป้องกันอธิปไตยและดูแลประชาชนคนไทย ที่อยู่ชายแดน เพื่อเตรียมรองรับสถานการณ์ใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ วันนี้ กองทัพอากาศเมียนมาปฏิบัติการนำ เครื่องบิน มิกซ์-29ทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาล เพื่อป้องกันที่มั่นฐานทหารสุดท้าย บก.พัน.ร.275 ค่ายผาซอง ในเมืองเมียวดี ห่างจากชายแดนไทยฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก 5กิโลเมตร
ทั้งนี้ หน่วยงานความมั่นคงของไทย ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และไม่พบว่าการโจมตีทางอากาศของเมียนมาครั้งนี้มีการล้ำแดนเข้ามา หรือ ส่งผลกระทบต่อฝั่งไทย อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ยังมีการปะทะกันของกองกำลังหลายจุดบริเวณชายแดน มีเสียงการยิงปะทะเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็น เสียงปืนเล็ก ปืนกล และ เสียงระเบิด ที่ดังอย่างต่อเนื่อง และเกิดกลุ่มควันจากระเบิด
ขณะที่เพจกองทัพอากาศ ได้เผยแพร่ ภาพเครื่องบิน เอฟ-16 บินเหนือน่านฟ้า พร้อมข้อความว่า 24/7 All Day & Night…our falcons maintain utmost readiness “ กองทัพอากาศเตรียมความพร้อมการป้องกันทางอากาศซึ่งวจากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน กองทัพอากาศ ยังคงปฏิบัติภารกิจการบินลาดตระเวน เพื่อปกป้องอธิปไตยและพี่น้องประชาชนชาวไทย
แหล่งข่าวระบุว่าปฏิบัติการบินตรวจการณ์จะทำในห้วงเวลาที่เหมาะสม โดยการปฏิบัติการล่าสุดของทอ.เมียนมา ไม่พบการล้ำแดน แต่ยังคงเฝ้าติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้กระทบต่อชายแดน หรือ มีการรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งมีขั้นตอนปฏิบัติในกรณีล้ำแดนอยู่แล้ว ในเรื่องการประสานงาน และแจ้งเตือนก่อน
ส่วนสถานการณ์ฝั่ง จ.เมียวดี กำลังกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNA)ยังคงประจำการบริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1
ขณะที่ ด่านข้ามแดนฝั่ง จ.เมียวดี มีชาวเมียนมาจำนวนมาก ในจังหวัดเมียวดี พร้อมสัมภาระเข้าคิวได้ทำหนังสือบอร์ดิ้งพาส ขอเดินทางข้ามแดนไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย ท่ามกลางกระแสข่าวให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ เพราะกลัวว่ากองทัพเมียนมา จะมีปฏิบัติการโต้กลับทางอากาศยาน หลังกองกำลังKNUเข้าโจมตีฐาน275ที่อยู่ห่างจากชายแดนแม่สอด-เมียวดี ประมาณ 14 กิโลเมตรเมื่อวานนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางกำลังทหารไทย พร้อมรถหุ้มเกราะ ได้เข้ามาตรึงกำลังบริเวณชายแดนแม่สอด-เมียวดีหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดเสียงดังคล้ายระเบิดฝั่งในพื้นที่ จ.เมียวดี ต่อเนื่องหลายครั้ง
ด้าน พล.ท.ประสาน แสงศิริรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงการสู้รบตามแนวชายแดน อ.สอด จ.ตากตรงข้าม จ.เมียวดี สหภาพเมียนมาว่า ปัจจุบันนี้ เมืองเมียวดี ยังคงอยู่ ยังไม่แตก หรือว่ามีกลุ่มต่อต้านเข้ามายึดในพื้นที่แต่อย่างใดแต่พื้นที่โดยรอบ ผาซอง เป็นที่ตั้งพัน.ร.2/5ยังมีการสู้รบอยู่
สำหรับฝั่งไทย กองทัพภาคที่3เตรียมความพร้อม ทหารไทยมีการลาดตระเวน เพิ่มความเข้มงวดตามแนวชายแดน เตรียมรับสถานการณ์อยู่ บทบาทไทยก็คือช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ส่วนจะมีผลกระทบ กรณีหากมีกระสุนตกที่ฝั่งไทย กองทัพภาคที่3 ก็ต้องมีมาตรการตอบโต้ จากเบาไปหาหนัก ซึ่งการสู้รบเป็นเรื่องภายในของเมียนมา ไทยคงไม่เกี่ยวอยู่แล้ว
“จริงๆอยากให้มีการเจรจาพูดคุยมากกว่าการสู้รบ ประเทศไทย เป็นประเทศเพื่อนบ้าน ถ้ามีความเดือดร้อนไทยก็ช่วยอยู่แล้ว ตามหลักมนุษยธรรม แต่นนี้ไม่มีการอพยพ หนีภัยสงครามยังมีการค้าขายในฝั่งจ.เมียวดี ผ่านเข้าออกตามแนวชายแดนตามปกติ ยืนยันเมียวดียังไม่แตก ส่วนราชการหรือประชาชนยังอยู่ในพื้นที่”
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ในเมียนมาที่มีการวิเคราะห์ว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น ว่า ก็อย่าให้มันรุนแรงมากขึ้น ก็อย่าคิดไปในทางที่ไม่ดี คิดในทางที่ดีขึ้นบ้างจะเป็นไปได้ไหม เรามีมาตรการที่จะดูแลผู้อพยพ ทั้งเรื่องการเจรจา และจุดยืนของประเทศไทยที่มีจุดยืนเป็นกลาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี