กทม.ประชุมกำหนดมาตรการปลอดภัยฝาท่อ ต้องแข็งแรง! ฝาไม่หาย! เล็งปรับแบบฝาใหม่ไม่ให้ขโมยไปขายได้ ใช้ AI ตรวจจับเฝ้าระวัง

วันที่ 7 พ.ค. 2567 นายณรงค์ เรืองศรี รองปลัดกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมหารือมาตรการความปลอดภัยเรื่องฝาท่อของ กทม. โดยเชิญหน่วยงานสาธารณูปโภคภายนอกและหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องกับฝาท่อ ร่วมประชุม ณ สำนักการโยธา ศาลาว่าการกทม.ดินแดง โดยแถลงภายหลังว่า กทม. ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การประปานครหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย บริษัทโทรคมนาคม หารือมาตรการป้องกันและแก้ไขจากกรณีประชาชนพลัดตกลงในบ่อพักท่อระบายน้ำบริเวณซอยลาดพร้าว 49 เขตวังทองหลาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก รวมถึงหารือแนวทางจัดการปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ผ่านเข้าระบบให้มีประสิทธิภาพและแก้ไขได้เร็วที่สุด และมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

มาตรการป้องกันและแก้ปัญหาเบื้องต้น ในส่วน กฟน. มีการเตรียมการก่อนก่อสร้างและมาตรการตรวจสอบความเรียบร้อยและปลอดภัยของสภาพบ่อพักและงานก่อสร้างเป็นรอบ แต่กทม.ให้ตรวจตลอดเวลาและต่อเนื่องให้เห็นบ่อพักหรือฝาบ่อต่างๆ รวมถึงผิวจราจรให้มีสภาพสมบูรณ์ตลอดซึ่ง กฟน.รับไปพิจารณาปรับเปลี่ยนรูปแบบฝาบ่อพักเป็นวัสดุที่รับน้ำหนักได้แข็งแรงและปลอดภัย และจะนำระบบ AI มาใช้ ดูในส่วนของฝ่าบ่อพักและผิวจราจรรูปแบบใช้กล้องตรวจจับ หากพบไม่เรียบร้อยผิวจราจรไม่เท่ากันก็จะสั่งให้หยุดทำงานและปรับให้เรียบร้อย อยู่ระหว่างการทดลอง ในส่วนเรื่องร้องเรียนผ่านระบบ Traffy Fondue ที่กทม.แจ้งไป กฟน.จะรีบตรวจสอบแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชม.

“เรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ กทม.ให้ความสำคัญระดับสูง บูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานของกทม. และหน่วยงานสาธารณูปโภคใน 50 เขต รวมถึงประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา เมื่อพบเห็นสามารถแจ้งผ่านระบบร้องเรียนของกทม. เราจะแจ้งหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าไปแก้ไข กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ทาง กฟน.ก็ได้แก้ไข แต่อาจต้องแก้ไขการสื่อสารในการรายงานกับหน่วยงานที่ดูแลพื้นที่เพื่อติดตามตรวจสอบว่าสิ่งที่ได้ทำไปถูกต้องหรือไม่ แจ้งว่าเสร็จแล้ว สมบูรณ์หรือไม่ จะต้องเป็นมาตรการที่ต้องช่วยกันกำชับดูแลต่อไป ฝาทุกฝาทุกบ่อในพื้นที่กรุงเทพฯ จะต้องมีผู้รับผิดชอบและตรวจสอบดูแล ฝาต้องไม่หาย สภาพมั่นคงแข็งแรงและปลอดภัย” รองปลัดฯ กล่าว

นอกจากนี้ รองปลัดฯ.ยังกล่าวถึงภาพรวมเรื่องร้องเรียนในส่วนของกทม. มีเรื่องระบบระบายน้ำที่มีความยาวท่อ 6,800 กว่ากม. ซึ่งในระบบจะมีการเปิดท่อเพื่อบำรุงรักษา ที่มีอยู่อย่างน้อย 5 แสนกว่าบ่อ มาตรการตรวจสอบให้หน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งสำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขตช่วยกันดูแลเมื่อพบเห็นฝาหาย ชำรุด จะแจ้งและเข้าแก้ไขใน24 ชม. ส่วนกรณีฝาท่อหายจนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุนั้น กทม.มีการตรวจสอบเป็นระยะต่อเนื่อง แต่ฝาที่หายเกิดจากมีการขโมย ซึ่งมีเยอะมากทั้งหน่วยงานกทม.เอง และหน่วยงานสาธารณูปโภค โดยเฉพาะฝาเหล็ก ก็คงต้องหามาตรการที่จะป้องกันไม่ให้ฝาหาย อาจต้องใช้วิธีล็อกฝา หรือใช้การออกแบบรูปแบบฝาไม่ให้มีมูลค่าให้นำไปขายได้ หรือเพิ่มระบบ AI ในการเฝ้าระวังและติดตามสถานะของฝา ซึ่งต้องพิจารณาแนวทางต่อไป