มหากาพย์เชื่อมจิต อดีตแอดมินแฉหมดเปลือก สารพัดเหตุการณ์ที่เจอ ยิ่งฟังยิ่งอึ้ง ขณะที่ รมว.สำนักนายก ขีดเส้น สำนักพุทธฯ ให้เวลา 7 วัน ทำความจริงให้ปรากฏ

วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันต่อเนื่อง กรณีลัทธิเชื่อมจิต หลังจากที่วันนี้ คณะทำงานตรวจสอบ กลั่นกรอง ข้อมูล ข่าวสารและการกระทำอันอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ออกมาแถลงข่าวยืนยัน 7 ข้อ ว่าการ “เชื่อมจิต” ไม่มีอยู่จริงตามพระไตรปิฎก และการอ้างเป็นอนาคามี การเห็นแสง การกลับชาติมาเกิด ทั้งหลายเหล่านี้ ไม่เป็นไปตามหลักธรรมคำสอน

นายเอ อดีตแอดมิน ทำงานกับเพจลัทธินี้มานานเป็นปีๆ แต่ปัจจุบันขอลาออกมาได้สักพัก เพราะเห็นว่า แนวทางหลายอย่างไม่ตรงกัน เขามีการเรียกรับเงินไปซื้อที่ดินของตัวแม่เอง เรารู้สึกว่า การสอนธรรมอะไรต่างๆ มันเริ่มไม่ใช่แล้ว

สิ่งที่แอดมินทุกคนต้องเจอ คือพฤติกรรมรุนแรงต่างๆ นานา ตบหน้า ด่าทอหยาบคาย แฟนของเอเคยเล่นกับน้อง แล้วเกิดเหตุแก้วช็อกโกแลตหก น้องเขาโกรธมาก พอแฟนเราก้มลงไปเช็ด น้องเอาดาบพลาสติกมาฟาดหัวแฟน แล้วขึ้นไปคร่อมขย่มตี

ทุกครั้งที่น้องทำอะไรแบบนี้ แม่เขาจะบอกว่า น้องพยายามจะไล่สิ่งไม่ดีออกไป เป็นเจตนารมณ์แฝงที่หวังดี

หลายคำที่เขาเล่ามันย้อนแย้งไปหมด เช่น ตอนแรกเขาบอกเขาเป็นพระพุทธเจ้ากลับชาติมาเกิด แล้วไปๆ มาๆ ก็มาบอกว่า เป็นลูกของพระพุทธเจ้า แล้วคนไหนที่บริจาคเยอะ ทำเยอะ เขาก็บอกว่า คนนั้นเป็นลูกเขา เป็นน้องเขา แอดมินหลายคนก็บอกว่า เป็นลูกของเขา เขาปั้นคนนั้นคนนี้ขึ้นมาจากขี้ไคล จากขี้เลื่อย เสกไม้ เสกดิน สร้างชีวิตขึ้นมา

อย่างคนที่ประมูลเสื้อ ประมูลชุดที่เขาใส่ ไปในราคาหลายแสนบาท ตอนแรกเขาบอกว่าเขาไม่ชอบคนๆ นี้เลย แต่ปรากฏว่าพอประมูลเสื้อไปได้ 3 แสน เขาถูกยกให้เป็นน้องสาวเฉยเลย

แล้วยังมีการสอนเทรดทอง ไปหาโบรกเกอร์มา แล้วบอกว่า น้อง 8 ขวบ เลือกมาแล้วว่าโค้ชคนนี้ เป็นโค้ชที่ถูกเลือก หลอกคนมาเทรดทอง จนมีแอดมินหลายคนพอร์ตแตก เสียเงินไปหลายแสน
ขณะที่คุณเกรซ หนึ่งในทีมงานของอาจารย์รัก ที่เคยไปร่วมในพิธีเชื่อมจิต ด้วยความอยากรู้ เป็นสายมู เห็นเขาบอกว่าจะเห็นแสงสีทอง อะไรต่างๆ นานา เราก็อยากไปพิสูจน์กับตัวเอง

วันที่ลองไปนั่งสมาธิ มันรู้สึกเหมือนกับตัวเราหายไป ไม่รู้สึกถึงตัวเอง เหมือนมันลอยหายไปเลย จนกระทั่ง น้องเดินมาแตะที่หน้าผากก็เหมือนตัวเรากลับมาทันที แต่ทางอาจารย์รักบอกว่า ถ้าเราฝึกสมาธิเป็นประจำ เราจะแยกออก ว่าอะไรคือจิต อะไรคือมโน บางอย่างมันเป็นการคิดไปเอง รู้สึกไปเองด้วยการมโน

แต่สิ่งที่ทำให้เราเอ๊ะมากๆ คือเจอเหตุการณ์รุนแรง คือเราไปอยู่ในเหตุการณ์ที่น้องเล่นน้ำกับพ่อ แล้วถูกพ่อขัดใจ แล้วร้องกรี๊ด เราก็ปากไวแล้วแซวไปว่า ก็กรี๊ดเลยสิคะ กรี๊ดออกมา ปรากฏว่าน้องโกรธมาก ถามว่า เมื่อกี๊พูดว่าอะไร แล้วปรี่เข้ามาจิกกระชากเรา เราก็พยายามปัดป้องอยู่นาน โดยที่แม่เขานั่งมองเฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย

นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ประธานอนุกรรมการพัฒนาระบบคุ้มครองเด็กในคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ และผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเด็ก บอกว่า เห็นว่าเขาบอกว่ามีทนายความ 30-40 คน แต่มันไม่ได้สำคัญว่าจะมีทนายเยอะแค่ไหน แต่มันสำคัญว่า คนที่มาเป็นทนายความของเขา มีความรู้แค่ไหนมากกว่า แล้วการเอาตัวเองไปไล่ฟ้องคนนั้นคนนี้ ล่าสุดทราบว่า จะไปฟ้องพนักงานเจ้าหน้าที่ ของ พม. ที่เข้าไปที่บ้านเขาเมื่อวันก่อน ว่าไปพูดจากดดันข่มขู่เด็ก 8 ขวบ อันนี้ศาลท่านก็ไม่น่าจะประทับรับฟ้อง เพราะพนักงานเขาเข้าไปตามอำนาจที่ได้รับการแต่งตั้งมา

สุดท้ายการเปิดรับบริจาคเงินซื้อที่ เป็นการยักย้ายทรัพย์สิน หรือการเปิดรับเงินต่างๆ เข้าไปที่บัญชีของนายแพทย์ พวกนี้เป็นเรื่องของการฟอกเงิน แล้วการประกาศให้ประชาชนเห็นสิ่งเหล่านี้ มันเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนแน่นอน

สิ่งที่จะแนะนำได้ก็คือ ถ้ารู้ตัวว่าผิด ก็ยอม แล้วหยุดเสียยังดีกว่า แต่ถ้าคิดว่าจะฟ้องร้อง จะเอาตัวเองไปผูกกับบ่วงกฎหมาย ก็พร้อมเจอกันในกระบวนการเหมือนกัน

ขณะที่ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เล่าถึงเรื่องที่ดินที่เป็นที่ครหาอยู่ ณ ขณะนี้ พบว่าแม่ของน้อง 8 ขวบ เคยลงขายเมื่อปี 2017 ราคาไม่กี่แสนบาท เป็นที่ดินแปลงเดียวกัน ที่นำมาอ้างว่าน้อง 8 ขวบต้องการที่ดินแปลงนี้มาสร้างสถานปฏิบัติธรรม ราคาเป็นล้านบาทไปแล้ว ซึ่งมันแปลกไปหมด

ขณะที่นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฟนอินเข้ามา หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าว 7 ข้อ ยืนยันว่าการเชื่อมจิต ไม่มีในพระไตรปิฎก

ส่วนที่ทางเพจลัทธิเชื่อมจิต ออกมาบอกว่า ไม่เคยพูดว่าการเชื่อมจิตเป็นคำสอน เป็นเพียงวิธีการ ทางรัฐมนตรีพิชิต บอกว่า ความจริงเป็นอย่างไรมันปรากฏชัดอยู่แล้ว เขามีการอ้างอิงยึดโยงพระพุทธศาสนาอยู่ตลอดอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้สั่งการให้ทางสำนักพุทธไปทำความจริงให้ปรากฏ โดยขีดเส้นให้ทำงานใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน

หลังจากนี้ ทางสำนักพุทธ พร้อมจะไปให้การเป็นพยานยืนยันข้อเท็จจริง หากหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย มองเห็นว่าการกระทำใดละเมิดกฎหมายแผ่นดิน จะให้สำนักพุทธไปให้ถ้อยคำใดๆ สำนักพุทธก็ต้องไป