“ชัชชาติ” ย้ำเอาจริงปราบทุจริต เผยเรียกรับมี 6 เคส กรณีช่างโยธารีด 9 ล้าน รอ ปปป.สอบ/จ่อตั้งคกก.เอาผิดวินัยหนักสุดไล่ออก
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกทม. ถึงกรณีการจับกุมเจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กทม. เรียกรับสินบน 9 ล้านบาท แลกช่วยแก้แบบแนวเขตโครงการถนนเลียบวารี ไม่ให้เข้าไปเขตสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ว่า กทม.ร่วมมือกับ ปปป. มาตั้งแต่กลางปี 2566 โดยรู้เบาะแสว่ามีการเรียกรับเงินกับผู้ประกอบการ จึงได้ประสาน ปปป.ดำเนินการสืบ ซึ่งกรณีเช่นนี้ไม่ได้มีแค่รายนี้รายเดียว ยังมีอีก 6 เคสกำลังดำเนินการ เราไม่อดทนกับการทุจริต ได้ให้ฝ่ายที่ทำหน้าที่สืบสวนดำเนินการอย่างอิสระตรงไป-ตรงมา เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมกรณีรายนี้ต้องดำเนินการทางวินัย ซึ่งต้องรอผลสอบสวนจาก ปปป. ก่อนว่ามีความผิดชัดเจนอย่างไร แบ่งเป็น 2 แนวทาง โดย ปปป.จะดำเนินการด้านความผิดทางอาญา และ กทม.จะดำเนินการทางวินัยต่อไป ส่วนจะขยายผลไปถึงใคร ให้ทาง ปปป.สอบสวนจะยุติธรรมที่สุด สำหรับโทษทางวินัยหนักสุดคือไล่ออกหรือปลดออก ซึ่งต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงดำเนินการไปตามกระบวนการ ถ้ามีหลักฐานความผิดชัดเจน คงไม่ใช้เวลานาน
“เราเอาจริงเอาจังเรื่องทุจริต ความโปร่งใส เพราะเป็นสิ่งสำคัญ เราจะเปลี่ยนกรุงเทพมหานครไม่ได้เลยถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องนี้ และเราให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจัง ต้องจับให้ได้ เอาเป็นเยี่ยงอย่างให้ทุกคนได้รับรู้ว่าเราเอาจริง เพื่อไม่ให้กล้าทำความผิดแบบนี้อีก จึงจะเป็นการปรามที่ได้ผลส่วนมาตรการป้องกัน เมื่อเราเอาจริงเอาจัง ก็มีคนกล้ามาบอกเรา ผู้ประกอบการที่ถูกเรียกรับโดนรีดไถกล้ามาแจ้งเบาะแสมากขึ้น เป็นส่วนดี เราก็ดำเนินการต่อไม่ได้เอาซุกใต้พรม อีกส่วนคือ Open Data ข้อมูลต่างๆ เปิดเผยชัดเจน เอาขึ้นออนไลน์เปิดเผยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ให้คนเข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้นลดการใช้วิจารณญาณของบุคคล โดยทำการขออนุญาตออนไลน์ มีกระบวนการชัดเจน โดยรวมสถานการณ์ดีขึ้นจากที่ฟังฟีดแบ๊กจากผู้ประกอบการ ยอมรับว่าคนที่ไม่ดีก็ยังมีอยู่แต่เราเอาจริง และกล้าพูดเรื่องนี้เพราะผู้บริหารเรามั่นใจว่าไม่มีเกี่ยวข้องทั้งสิ้น จึงกล้าทำเรื่องนี้โดยไม่กลัวว่าจะมีผลกระทบอะไร” ผู้ว่าฯชัชชาติกล่าว
ด้านพล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวในกรณีการเข้าจับกุมกรณีนี้ว่า ได้ทราบเบาะแสตั้งแต่กลางปี 2566 ได้ประสานทาง ปปป. สืบสวนพบว่าไปแจ้งที่ ป.ป.ช.ส่วนหนึ่ง จึงนำเรื่องนี้ไปดำเนินการ เช้าวันที่ 20 พ.ค. 2567ใช้หมายศาลเข้าจับกุมผู้ต้องหารวม 4 คน จับได้ 3 คนกำลังติดตามจับอีก 1 คน คือภรรยาของนายภีมพงษ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี