จับตา‘เศรษฐา’ถก ก.ตร.30 พ.ค. หารือปมกฤษฎีกาตีความ‘บิ๊กโจ๊ก’ออกจากราชการ

จับตา‘เศรษฐา’ถก ก.ตร.30 พ.ค. หารือปมกฤษฎีกาตีความ‘บิ๊กโจ๊ก’ออกจากราชการ

วันพุธ ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 15.14 น.

จับตา‘เศรษฐา’ถก ก.ตร.30 พ.ค. หารือปมกฤษฎีกาตีความ‘บิ๊กโจ๊ก’ออกจากราชการ

29 พฤษภาคม 2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. นัดประชุม  ก.ตร.ครั้งที่ 4/2567 วันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ค.67 เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยมีวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย  วาระที่ 1  เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ วาระที่ 2  รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567  วาระที่ 3  เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.วินัย ที่ ก.ตร.มอบหมายให้ทำการแทน เรื่องที่ 2 รายงานสถิติข้อมูลการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2564 และกฎ ก.ตร.ว่าด้วยจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ.2566 ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (ระหว่างเดือน เม.ย.66 - ก.ย.66)


วาระที่ 3 ขอสำเนารายงานการประชุม ก.ตร. วาระที่ 4  เรื่องที่เสนอเพื่อพิจารณา เรื่องที่ 1 การกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำเกี่ยวกับอัตรากำลังพลในกลุ่มสายงานสืบสวนสอบสวน เรื่องที่ 2 การกำหนดกรอบอัตราพัสดุ ระดับสถานีตำรวจ กองบังคับการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรจังหวัด เรื่องที่ 3 การจัดทำคำขออนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการ รอบที่ 6  (ปีงบประมาณ พ.ศ.2568- 2571 ) เรื่องที่ 4 การมอบหมายให้ชี้แจงเรื่องร้องทุกข์ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อ ก.พค.ตร.และวาระที่ 5 เรื่องอื่น ๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร.วันพรุ่งนี้ ต้องจับตาว่า จะมีการหยิบยกประเด็นวาระที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา มีบันทึกความเห็นกรณีการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ออกจากราชการไว้ก่อน นายกฯต้องนำความกราบบังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่ต้องนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากตำแหน่ง ตามมาตรา 140 วรรคหนึ่ง เนื่องจากมิใช่การพ้นจากตำแหน่งเพราะความตาย เกษียณอายุ หรือพ้นจาก ราชการเพราะถูกลงโทษ ด้วยเหตุที่การออกจากราชการไว้ก่อนมิใช่โทษทางวินัยตามมาตรา 1156 และกรณีที่เห็นว่าการสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ หากเป็นความเห็นของคณะกรรมการสอบสวนก็จะชอบด้วยกระบวนการตามกฎหมายและเป็นธรรมแก่ผู้ถูกสอบสวน และการนำความขึ้นกราบบังคมทูลตามมาตรา 140 วรรค 1 ย่อมเป็นไปด้วยความชอบธรรม มาหารือหรือพูดคุยในที่ประชุมหรือไม่

ขณะที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียน ต่อ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. และ ก.ตร. เพื่ออุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการ ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครอง ที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนาม โดยมองว่าเป็นคำสั่งที่มิชอบ ประกอบกับก่อนจะมีหนังสือคำสั่งให้ออกจากราชการ พบว่ามีการร่างคำสั่งเอาไว้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.และลงนามในวันที่ 18 เม.ย.แสดงให้เห็นว่า มีขบวนการให้ออกจากราชการหรือไม่ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยัง เตรียมจะยื่นฟ้องรรท.ผบ.ตร.และผู้เกี่ยวข้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบอีกด้วย

-005

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top