วันที่ 3 มิถุนายน 2567 เวลาประมาณ 11.50 น. ทางตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันพยายามฆ่าเสี่ยต้นซึ่งรับหน้าที่ขี่จักรยานยนต์ เข้ามาที่ บก.สส.บช.น. เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด โดยระหว่างการควบคุมตัว นายวีรภัทรได้สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวยืนยันว่า ตนเองไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับมด ภรรยาของเสี่ยต้นแต่อย่างใด ไม่รู้ว่ามีการจ้างวานจากใคร แต่ยอมรับว่า เป็นคนที่ขี่จักรยานยนต์ให้กับมือยิงจริง ซึ่งตนเองไม่ได้ตั้งใจทำ เนื่องจากไม่ทราบว่าถูกว่าจ้างให้ไปขี่รถจักรยานยนต์เพื่อประกบยิงเสี่ยต้น ในวันนั้นเป็นการว่าจ้างให้ตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหาแฟนสาวของมือยิง โดยตนเองได้ค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท 

โดยนายวีรภัทรเล่าอีกว่า ในวันที่ก่อเหตุ จังหวะที่มือปืนลงมือลั่นไกนั้น ตนเองก็พยายามขี่รถจักรยานยนต์เบี่ยงออกเพื่อให้วิถีกระสุนไปทิศทางอื่น พอหลังจากที่เป็นข่าว ตนเองก็มีความคิดที่อยากจะเข้ามอบตัวกับทางตำรวจ แต่ยังอยู่ในระหว่างปรึกษากับรุ่นพี่ ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวในช่วงเช้าวันนี้ ทั้งนี้ นายวีรภัทรกล่าวยอมรับว่า ตนเองรู้สึกผิดและอยากขอโทษทางครอบครัวของเสี่ยต้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

นอกจากนี้ ตำรวจชุดสืบสวนยังได้ยึดอายัดรถมอเตอร์ไซต์ Honda สีขาว รุ่น MSX125 ของนายวีรภัทรไว้เป็นของกลาง ซึ่งคาดว่า มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว คือมอเตอร์ไซค์คันที่ใช้ก่อเหตุประกบยิงเสี่ยต้น โดยที่มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว ได้มีการเขียนข้อความระบุว่า "สำนักสักยันต์แห่งหนึ่ง" เอาไว้ด้วย 

ต่อมา เวลา 12:05 ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว น.ส.วรรณิภา หรือมด ภรรยาเสี่ยต้น เข้ามายัง บก.สส.บช.น. เพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียด โดย น.ส.วรรณิภา ได้มีการสวมหมวกแก๊ปสีดำและใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า 

โดยระหว่างที่คุมตัวขึ้นไปยังห้องสอบสวน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่าเสี่ยต้นหรือไม่ รวมถึงสาเหตุที่ต้องจ้างวานฆ่าและในวันที่เธอปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ทำไมถึงต้องพูดโกหกว่าเสียใจด้วย โดย น.ส.วรรณิภา ได้แต่เดินก้มหน้าและไม่มีการตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : แฉ'เมียเสี่ยต้น'หาคนรับงานผ่านแอป ผู้ร่วมขบวนการสารภาพรับค่าจ้าง 3 แสน