รมว.ยุติธรรมควง สส.เพื่อไทยลุยนครพนมแก้ปัญหาหนี้สินในครัวเรือน-ยาเสพติดชายแดนเพื่อนบ้าน 

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายวิรัช พิมพะนิตย์ ส.ส.กาฬสินธุ์ เขต 1 พรรคเพื่อไทย นายนิพนธ์ คนขยัน ส.ส.บึงกาฬ เขต 3 พรรคเพื่อไทย นายอนุชิต หงษาดี นายก อบต.โพนสวรรค์ ทีมฮักนครพนม ตัวแทนการเมืองท้องถิ่น พรรคเพื่อไทย นายดนัย สิทธิวัชรชัย อดีตนายกเทศบาลตำบลบ้านแพง นำคณะทำงานในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ปัญหาแก้หนี้สินในครัวเรือน ตามนโยบายรัฐบาล ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านรับทราบปัญหาในพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม อ.นาทม และ อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อมอบนโยบาย วางมาตรการ แผนการป้องกันสกัดกั้นปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก ในพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินในครัวเรือน หรือหนี้สินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลโดยประชาชนจะต้องได้รับการดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงประเด็นสำคัญในการลงพื้นที่ โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานความมั่นคง เร่งสกัดกั้นปราบยาเสพติด กำชับจะต้องเห็นผลภายใน 90 วัน ตามนโยบายรัฐบาล เน้นย้ำข้าราชการ เจ้าหน้าที่ภาครัฐห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หากพบการกระทำผิดต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด รวมถึงเน้นให้หน่วยงานภาครัฐ สร้างความร่วมมือกับชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง สร้างภูมิคุ้มกันครอบครัว รวมถึงลูกหลานเยาวชนห่างไกลยาเสพติด เชื่อมั่นว่านอกเหนือจากการปราบปรามขั้นเด็ดขาดแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือครอบครัวจะต้องช่วยกันดูแลลูกหลานเยาวชนให้เป็นกำลังที่เข้มแข็งในอนาคต

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่าสำหรับปัญหาหนี้สิน ถือเป็นอีกนโยบายสำคัญที่รัฐบาลมีความห่วงใย นอกเหนือจากการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ได้รับการช่วยเหลือ ปัจจุบันยังพบว่าปัญหาหนี้ กยศ.เป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลเดินหน้าช่วยเหลือ ผ่านกระทรวงยุติธรรม โดยมอบนโยบายหน่วยงานภาครัฐ ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ขึ้นทะเบียนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากหนี้ กยศ.พร้อมปลดล็อคคนค้ำประกัน ถอนบังคับคดี ไม่ให้มีการดำเนินคดีทางแพ่ง และกำหนดการชดใช้หนี้โดยหักยอดเงินต้นเป็นหลัก พร้อมลดดอกเบี้ยรวมถึงค่าปรับ

“พื้นที่จังหวัดนครพนมยอมรับว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงลูกหลานเยาวชน จากข้อมูลมีลูกหนี้ กยศ.จำนวน 35,318 คน มูลค่าหนี้รวมเกือบ 3 พันล้านบาท มีการถูกบังคับคดีเกือบ 3 พันคนถูกฟ้องอีกกว่า 6 พันคน รวมเป็นหมื่นคนที่เป็นหนี้ กยศ.ยังไม่นับรวมหนี้ครัวเรือน โดยรัฐบาลจะเร่งดำเนินการ ฝากประชาสัมพันธ์ให้ลูกหนี้หรือบุคคลที่ได้รับความเดือดร้อนไปขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อขอรับการช่วยเหลือฯ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว