หน่วยปราบยาเสพติดท่าอาศยาน (AITF)ปฏิบัติการทลายเครือข่ายยานรก จับชาวฮ่องกง 4 ราย พร้อมเฮโรอีน 40 แท่ง คาสนามบินสุวรรณภูมิ

วันที่ 24 มิถุนายน 2567  ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ถนนดินแดง กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาชาวฮ่องกง 4 ราย พร้อมเฮโรอีน 14 กิโลกรัม (40 แท่ง) ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางแบบลาก โดยจับกุมตัวได้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับข้อมูลและการสืบสวนร่วมกับตำรวจฮ่องกง เพื่อติดตามพฤติการณ์ของนาย Leung Wai Kit (โหล่ง เหว๋ย กิต) ซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดรายสำคัญชาวฮ่องกงที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อดำเนินการจัดหายาเสพติด โดยมีนาย Chun he Chow (เชา ชุน เฮ) ผู้ลำเลียงยาเสพติดร่วมในการเดินทางมาประเทศไทยเช่นกัน จึงได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เตรียมชุดปฏิบัติการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task force : AITF) สืบสวนกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวอีกว่า กระทั่งวันที่ 23 มิ.ย. เวลาประมาณ 19.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสืบสวนได้ทราบว่านาย Leung Wai Kit (โหล่ง เหว๋ย กิต) กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด เดินทางเข้าพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกระเป๋าเดินทางที่เชื่อว่ามียาเสพติดซุกซ่อนอยู่เพื่อเตรียมส่งต่อกลับฮ่องกง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. จึงประสานงานกับ นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อทำการตรวจค้นและควบคุมตัวกลุ่มบุคคลเหล่านี้

ผลการตรวจสอบพบเฮโรอีน 14 กิโลกรัม (40 แท่ง) ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง พร้อมจับกุมตัวนาย Leung Wai Kit (โหล่ง เหว๋ย กิต) และพวกอีก 3 คน ทั้งหมดถูกแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันพยายามส่งออก ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต"

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ กล่าวต่อว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่แพร่หลายในทุกภูมิภาค และการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยใช้ไทยเป็นทางผ่านยังคงพบอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการขนส่งทางพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ผ่านการขนส่งทางอากาศ และซุกซ่อนในสินค้าต่างๆ ผ่านการขนส่งทางเรือ ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้มีโครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task force : AITF) และพื้นที่ท่าเรือ (Seaport Interdiction Task Force : SITF) เพื่อให้มีการสกัดกั้นการนำยาเสพติดเข้าประเทศและส่งออกไปยังประเทศที่สามอย่างมีประสิทธิภาพ

ด้าน นายปฤณ เผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายเป็นชาวฮ่องกงได้รับคำสั่งจากผู้สั่งการที่เป็นชาวฮ่องกง ให้เดินทางมารับเฮโรอีนในประเทศไทยกลับฮ่องกง โดยมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จากนั้น มีผู้มาส่งมอบเฮโรอีนดังกล่าวให้ถึงที่พักขณะนี้อยู่ระหว่างไล่กล้องวงจรปิดว่าเป็นคนสัญชาติใดเพราะยังไม่มีข้อมูล โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมคาสนามบินระหว่างตรวจเช็คเอกสารและกำลังโหลดกระเป๋าเดินทางลงสายพาน เบื้องต้นจากลักษณะแพ็คเกจเฮโรอีนน่าจะขนส่งมาจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำประเทศเพื่อนบ้าน คาดน่าจะมีคนไทยน่าเกี่ยวข้องด้วย ส่วนผู้ต้องหาให้การว่าเคยลักลอบทำมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อเดือน พ.ค.67 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

ส่วนทาง นายพันธ์ทอง ระบุว่า ด่านตรวจเอ็กซเรย์ภายในสนามบินจะตรวจจับวัตถุอันตราย เช่น ระเบิดหรืออาวุธปืน และส่วนใหญ่การลักลอบขนยาเสพติดมักใช้วิธีการซุกซ่อนในพัสดุหรือผลิตภัณฑ์เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะบูรณาการตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น