14 กรกฎาคม 2567นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ด้วยกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 3 (128/2567) ลงวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 แจ้งว่า ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
โดยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ระหว่างวันที่ 14-18 กรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะอำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ
ดังนั้นเพื่อเป็นการเน้นย้ำในการเตรียมพร้อมเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ จึงให้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ (กอปภ.อ.) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบล (กอปภ.ทม./ทต.) และหน่วยงานด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ติดตามสถานการณ์และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า
ในกรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ให้ติดตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่แต่ละจุดอย่างใกล้ชิดรวมถึงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักหรือบริเวณฝนสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะ ถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีฝนตกหนักมีความสี่ยงที่จะเกิดภัย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ ห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว ตลอด 24 ชั่วโมง
หากเกิดสถานการณ์สาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที โดยประสานจัดกำลังจิตอาสาเข้าร่วมปฏิบัติงานด้วย พร้อมทั้งแจ้ งกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีทราบทันทีทางหมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 034-515998,034-516795 จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ dpm kan@hotmail.co.th และแอปพลิเคชันไลน์ : รายงานสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี สำหรับอำเภอ ขอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ (เทศบาลตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล) ทราบและดำเนินการด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเดือนกรกฎาคม 2556 ได้เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่องกันหลายวันในพื้นที่ อ.สังขละบุรี น้ำป่าได้ไหลหลากลงสู่ลำน้ำซองกาเรียด้วยการพัดนำพาเศษสวะรวมทั้งท่อนไม้ขนาดใหญ่มาขวางทางน้ำไหลบริเวณเสาสะพานไม้อุตมานุสรณ์ หรือสะพานมอญเชื่อต่อระหว่างชุมชนชาวมอญบ้านวังกะ หมู่ 2 และเขตเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี
จนกระทั่งเวลา 18.30 น.ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ด้วยความรุนแรงของกระแสน้ำประกอบกับสวะที่ขวางทางน้ำไหล เป็นเหตุทำให้สะพานพังถล่มลงมา สื่อมวลชนในพื้นที่และจากส่วนกลางทุกแขนงได้ติดตามรายงานข่าวในทุกๆวัน จนเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วประเทศ สุดท้ายแล้วสะพานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่คนไทยทั้งประเทศต่างก็หลั่งไหลมาท่องเที่ยวอย่างไม่ขาดสาย ทำให้เม็ดเงินสะพัดในพื้นที่เป็นจำนวนมหาศาลมาจนถึงปัจจุบัน จากวันนั้นถึงวันนี้นับถอยหลังเหลืออีกเพียงแค่ 14 วันเท่านั้นก็จะครบรอบ 11 ปี วันที่สะพานพังถล่มลงมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี