ดินถล่มทับอุโมงค์‘รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน’ช่วงปากช่อง คนงานติดภายใน 3 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 24 ส.ค.67 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างวิชา ปากช่อง รับแจ้งเกิดเหตุอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ดินถล่มทับคนงาน ขณะที่คนงานกำลังใช้รถแบคโฮ และรถตักทำงานขุดเจาะอุโมงค์ อยู่ลึกจากปากอุโมงค์ไปประมาณ 600 เมตร จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเมตตา นครราชสีมา ระดมกำลังเข้าไปช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นไซต์งานขุดเจาะอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิต ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ของผู้รับเหมากำลังระดมรถแบคโฮ ขุดดินใส่รถบรรทุก เพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนงานที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์ ล่าสุดในช่วงเวลา 09.00 น. วันที่ 25 ส.ค.67 ยังไม่สามารถเข้าไปถึงจุดที่คนงานและหัวหน้างานถูกอุโมงค์ถล่มทับ 

ผู้ควบคุมงาน แจ้งว่า จุดที่ดินถล่มห่างจากปากทางอุโมงค์ ระยะทางประมาณ 3-4 กม.และมีบุคคล สูญหาย จำนวน 3 ราย เป็นผู้ควบคุมงานสัญชาติจีน 2 ราย และแรงงานชาวเมียนมา ผู้ขับรถบรรทุก 1 ราย จึงได้ร้องขอทีมชีพกู้ภัยสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นได้รับรายงานว่าช่วงเวลา 01.30 น. ดินยังถล่มลงเรื่อย ๆ ยังไม่สามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ และทางบริษัทได้ส่งรถจักรกล เข้าไปทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อทำการช่วยเหลือผู้ที่สูญหาย ต่อไป

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง(ขร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้ตรวจสอบหาข้อมูลสาเหตุที่เกิดขึ้น ในรายละเอียดสาเหตุที่เกิดขึ้น เร่งประสานหน่วยรับผิดชอบ อื่น ตามกฎหมาย เพื่อ กำหนดมาตรการให้ความช่วยเหลือ และแผนการกู้สถานการณ์ ต้องดูทั้ง ด้านวิศวกรรม ด้านความปลอดภัย และกฎหมายตรวจสอบสัญญา ความรับผิดชอบ และประกันภัย รวมทั้งมาตรการเยียวยา กับผู้เสียหาย ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง ป้องกันการสูญเสียซ้ำซ้อน

ด้านนายปสันน สวัสดิ์บุรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR กล่าวถึงเหตุดินถล่มภายในอุโมงค์รถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ไทย – จีน ว่า ขณะนี้บริษัทฯ ยังไม่ได้รับรายงานรายละเอียดของสาเหตุที่แน่ชัด และอยู่ระหว่างดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบ

ทั้งนี้ งานอุโมงค์ดังกล่าว อยู่ภายใต้สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์ มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร โดย ณ เดือน ก.ค.2567 บริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ 74.06%