nn คน กทม. หวั่นเกรงกันว่าช่วงกันยายน-ตุลาคม 2567 ถ้ามีฝนตกหนักแล้วน้ำเหนือทะลักเข้าสมทบแน่นอน กทม. อาจคงหนีไม่พ้นน้ำท่วม แต่หากถ้าน้ำทางเหนือเข้ามามาก กทม.ฝนลงน้อย การจะเกิดน้ำท่วมคงยากเช่นกัน ทั้งนี้สืบเนื่องจากนโยบายการป้องกันน้ำท่วมขณะเกิดฝนตกหนักนั้น กทม.เตรียมแผนรับมือไว้อย่างดี ที่สำคัญเรื่องนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ก็ตอกย้ำเน้นให้ทุกหน่วยงานตื่นตัวตระหนักรู้อยู่ตลอด ที่จะไม่ให้ กทม.เสียหายจากฝนตกแล้วมีน้ำท่วม ที่สำคัญเมื่อมีฝนหนักหรือเกิดท่วมขังขึ้นทุกฝ่ายต้องเร่งเคลียร์พื้นที่ที่มีปัญหาให้จบโดยเร็ว ต้องไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนรำคาญทนลุยน้ำอยู่นานหลายชั่วโมง ยิ่งกว่านั้นแผนงานที่วางไว้ก็มีการซักซ้อมเตรียมพร้อมไม่บกพร่อง และเรื่องนี้ดูเหมือนส่งผลทำให้แม่งานใหญ่อย่างสำนักการระบายน้ำ (สนน.) สำนักการโยธา (สนย.) ต้องทำงานหนักควบคู่กันเข้าขากันอย่างไม่เคยจะได้แลเห็นชัดๆ มาก่อนเท่าไหร่นัก พูดตรงไปตรงมาสามัคคีชุมนุมแน่นเหนียวมาก (คำพูดเจ้าหน้าที่ สนน.คนหนึ่ง) ซึ่งลักษณะนี้จะเกิดขึ้นค่อนข้างยาก สำหรับประเด็นของน้ำท่วมนั้นฝ่ายบริหารชุดปัจจุบันทุ่มเทเอาใจใส่ติดตามดีมาก
nn อย่างไรก็ตามดูเหมือนสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายบริหารชุดนี้ไม่ค่อยได้ให้ความสนใจ หรือพูดถึงเท่าที่ควร คือ เรื่องชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนซึ่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะ และกัดเซาะเข้ามาทุกวันทุกเดือนทุกปี สิ่งที่ทำกันมองกันแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การป้องกันแก้ไขที่ดีถูกต้องตามสภาพของปัญหา วิธีนี้เรียกว่า “ทีกรอย” แต่จากการรุกหนักเล่นหนักของอดีตรองผู้ว่าฯกทม. ศักดิ์ชัย บุญมา ยุคที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองเป็นผู้ว่าฯกทม. จนได้คำจำกัดความว่า “ทีกรอย” ออกมาและเป็นการเห็นด้วยทั่วหน้าว่าวิธีดังกล่าวเป็นกุญแจแก้ปัญหาได้ตรงจุดที่สุด เหมาะสมที่สุด ทว่าน่าเสียดายที่ นายศักดิ์ชัย บุญมาต้องหมดหน้าที่ไป สรุปวิธีการข้างต้น ณ วันนี้มีสภาพแค่ “ลูกผีลูกคน” เท่านั้น นับว่าน่าเสียดายสุดๆ ทีเดียว
nn ปัญหาชายฝั่งถูกน้ำทะเลกัดเซาะไม่ใช่มีแค่บางขุนเทียนทรัพย์ธรรมชาติที่คน กทม.จำนวนมากแทบยังไม่รู้ว่ามีชายหาดชายทะเล และแทบไม่มีผู้ว่าฯ กทม. คนไหนทุบโต๊ะสนับสนุนเปลี่ยนรูปให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเหมือนชายหาดทั่วไปเท่านั้น ชายทะเลสมุทรปราการหลายแห่งก็ถูกทิ้งประจานกึ๋นฝ่ายรับผิดชอบอยู่อย่างทรามทรุด เช่น บริเวณวัดกุฎ ครั้งหนึ่งเป็นหมู่บ้าน วันนี้เสาไฟฟ้าทะลึ่งอยู่กลางทะเลแล้วประชาชนปิดประกาศหานักการเมืองทั้งท้องถิ่นและระดับชาติว่า “หายหัวไปไหน”
nn ปิดท้ายด้วยความสงสัยของประชาชนคน กทม.ว่า เหตุใดวันนี้คนจีนจึงบุกเข้ามายึดอาชีพการทำมาหากิน,สถานการศึกษา, อาคารที่พักของคนไทยกันบ้าคลั่ง ท่ามกลางที่รัฐบาลเองแทบมองไม่เห็นว่านั่นคือวิธียึดพื้นที่ด้วยพลเมืองที่น่ากลัวยิ่ง “เมืองลาว”กว่าเขาจะรู้ตัวก็ถูกกลืนแทบทั้งประเทศแล้ว (มีต่อ) nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี