ปลัด มท.พร้อมผู้ว่าฯเชียงราย ร่วมลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย

ปลัด มท.พร้อมผู้ว่าฯเชียงราย ร่วมลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย

วันพุธ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2567, 17.25 น.

ปลัด มท. พร้อมด้วย ผู้ว่าฯ เชียงราย ร่วมลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย และเยี่ยมเยือนให้กำลังใจประชาชน อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ พร้อมขอบคุณพี่น้องอาสาสมัคร มูลนิธิ สมาคม จากทั่วทุกสารทิศ ที่ทุกฝ่ายมาช่วยกันอย่างเต็มกำลัง และยืนยันเราจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยความแข็งขันไปด้วยกัน

วันนี้ (11 ก.ย. 67) เวลา 14.30 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ลงพื้นที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่อำเภอแม่สาย พร้อมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนผู้ประกอบการ และประชาชนผู้พักอาศัยในบริเวณที่ได้รับผลกระทบ


โดยในระหว่างการตรวจติดตามสถานการณ์ของนายสุทธิพงษ์ และคณะ ได้มีประชาชนที่ยังคงพักอาศัยอยู่บริเวณชั้นสูงของบ้านเรือน ตะโกนขอรับการสนับสนุนอาหารกล่อง ซึ่งนายสุทธิพงษ์ได้ตะโกนตอบกลับ พร้อมทั้งแจ้งให้นายอำเภอและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายได้ให้เจ้าหน้าที่นำข้าวกล่องและน้ำดื่มไปมอบให้รับประทานเพียงพอตลอดทั้งวัน

จากนั้น นายสุทธิพงษ์ และคณะ ได้เดินทางไปยังวัดพรหมวิหาร ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว โดยมีพี่น้องประชาชนพักอาศัยกว่า 300 คน พร้อมทั้งได้ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน และเจ้าหน้าที่ ตลอดจนอาสาสมัครผู้มาปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่หลายคนก็เป็นผู้ประสบภัย เนื่องจากบ้านเรือนที่พักอาศัยก็ถูกน้ำท่วมไม่สามารถเข้าอยู่ได้ แต่ด้วยภาระหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงมุ่งมั่นตั้งใจมาช่วยปฏิบัติงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน เพราะประชาชนต้องมาก่อน

นายสุทธิพงษ์ กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจติดตามสถานการณ์ในช่วงบ่ายว่า ขอกราบขอบพระคุณเมตตาคุณของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูวิบูลธรรมวิมล เจ้าอาวาสวัดพรหมวิหาร ที่เมตตาให้ทางราชการได้ใช้บริเวณสถานที่ของวัดเป็นพื้นที่พักพิงชั่วคราวของพี่น้องประชาชนผู้ประสบอุทกภัย ซึ่งนับเป็นความกรุณาที่สอดคล้องกับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทยและมหาเถรสมาคม ในการให้วัดเป็นที่พึ่งพิงพึ่งพาอาศัยของประชาชนในยามทุกข์ยาก นอกจากนี้ ต้องขอขอบคุณพี่น้องอาสาสมัคร มูลนิธิ สมาคม จากทั่วทุกสารทิศ ที่ทุกฝ่ายมาช่วยกันอย่างเต็มกำลัง เช่น ลุงเต็นท์แดง ก็ได้แชมป์เจ็ตสกีจากการประสานงานคุณกันจอมพลังมาช่วย รวมถึงกองทัพ ก็มีท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาลงพื้นที่ด้วยตนเองและได้ประชุมวางแผนในการที่จะทำให้ศูนย์ช่วยเหลือในสถานการณ์อุทกภัยอำเภอแม่สายมีระบบระเบียบที่ชัดเจน และท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็อาสาในการประสานระดมสรรพกำลังยุทโธปกรณ์ของทหาร เครื่องจักรกลหนัก เฮลิคอปเตอร์ และกำลังพลมาช่วยอย่างเต็มที่ และหากพื้นที่ต้องการรับการสนับสนุนสามารถแจ้งท่านได้โดยตรง เป็นเรื่องที่ทำให้พี่น้องประชาชนมีความอุ่นใจยิ่ง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า เรื่องสำคัญที่เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว คือ เราต้องมาช่วยกันในการคิดวางระบบป้องกันปัญหาอุทกภัยในบริเวณพื้นที่อำเภอแม่สายให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยประการที่ 1) ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายอำเภอแม่สาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นายกเทศมนตรีตำบลแม่สาย ทุกคนเห็นปัญหาตรงกันว่า ในด้านโครงสร้าง เนื่องจากเราเป็นพื้นที่ที่อยู่คู่ขนานกับประเทศเพื่อนบ้าน ลำน้ำที่ไหลเป็นเส้นแบ่งแดนของทั้งสองฝั่งมีลักษณะเป็นคอขวด และมีลักษณะการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นอาคารพาณิชย์ที่สร้างติดพื้นดิน บวกกับการขยายตัวของชุมชน จึงทำให้มีบางส่วนเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพราะทำให้ทางน้ำแคบลง จึงต้องอาศัยกลไกของคณะกรรมการระหว่างประเทศ ซึ่งมีทางกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศ หารือหาแนวทางร่วมกันกับประเทศเพื่อนบ้านควบคู่ไปด้วย ประการที่ 2) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นคนพื้นที่ได้เล่าให้ฟังว่า จังหวัดเชียงรายเคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการทำแก้มลิงในลักษณะอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง บริเวณอำเภอเทิง ที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำหงาวและลำน้ำงาว แต่ในช่วงเวลานั้น ยังมีท่านเจ้าของที่ดินบางส่วนยังเห็นไม่ตรงกัน จึงทำให้ในฤดูฝนน้ำท่วมรุนแรง โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและนายอำเภอเทิงจะลงไปทำประชาคมเพื่อขอความสมัครใจในการเข้าร่วมโครงการ และรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อพิจารณา เพราะโครงการนี้เป็นโครงการที่กรมชลประทานเคยศึกษาแล้ว แต่ล่าช้ามาเป็นเวลา 10 ปี จึงต้องทำให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือเป็นไปในทางเดียวกันก่อน และประการที่ 3) ในเชิงโครงสร้างของการช่วยเหลือชุมชนที่ขยายตัว ออกมามาก ๆ ทั้งที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย ซึ่งจากการสังเกตพบว่า บริเวณสะพาน ท.6 ที่เป็นทางไหลผ่านของลำน้ำกกในเขตชุมชนเมือง พวกเราสร้างบ้านกันใหม่จำนวนมาก ยิ่งใหม่ก็ยิ่งถมให้สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้พื้นที่เก่าแก่ที่เป็นชุมชนริมน้ำมีโอกาสน้ำท่วมทุกปีและเอ่อล้นไปท่วมบ้านเรือนประชาชนด้วย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายจะร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองและองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายจะช่วยกันสำรวจเพื่อนำไปสู่การทำข้อเสนอให้ทางรัฐบาลพิจารณาจัดสร้างกำแพงพนังกั้นน้ำที่สูงขึ้นต่อไป

นอกจากนี้ เนื่องจากในขณะนี้สถานการณ์น้ำในแม่น้ำกกพื้นที่อำเภอเมืองเชียงรายเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ไหลเข้าท่วมพื้นที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จึงได้สั่งการให้ตัดระบบไฟฟ้าภายในศาลากลางจังหวัดเพื่อความปลอดภัยของสถานที่ราชการ พร้อมทั้งสั่งการให้ส่วนราชการต่างๆได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามเวรรักษาสถานที่ราชการ โดยหน่วยให้บริการประชาชน เช่น ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงราย ยังคงให้บริการตามปกติ และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ปฏิบัติงานบัญชาการเหตุการณ์ และปฏิบัติราชการตามหน้าที่ราชการอยู่ ณ ที่ว่าการอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงพื้นที่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เดินทางกลับมายังห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยร่วมกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ซึ่ง Conference มาจากกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top