วันศุกร์ ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
อสส.สั่งฟ้องคดีตากใบ อดีต ผบ.พล.ร.5 กับพวก ข้อหาหนักฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ

อสส.สั่งฟ้องคดีตากใบ อดีต ผบ.พล.ร.5 กับพวก ข้อหาหนักฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ

วันพุธ ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567, 12.33 น.
Tag : คดีตากใบ ตากใบ สั่งฟ้อง ค่ายอิงคยุทธบริหาร อัยการสูงสุด อสส ประยุทธเพชรคุณ
  •  

อสส.สั่งฟ้องคดีตากใบ อดีต ผบ.พล.ร.5 กับพวกรวม 8 คน พลขับรถบรรทุกเหยื่อดับขาดอากาศหายใจ 78 ราย ข้อหาหนักฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ ให้ตร.นำตัวส่งอัยการยื่นฟ้องก่อนคดีจะขาดอายุความ 20 ปี ภายใน 25 ตุลาคมนี้

เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2567 ที่บริเวณ Press Center ชั้น 2 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด , นายณรงค์ ศรีระสันต์ และ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกฯ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีอัยการสูงสุด มีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาคดีตากใบ สรุปว่า


คดีนี้ อัยการสูงสุดได้รับสำนวนวิสามัญฆาตกรรมและสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพของศาลจังหวัดสงขลา จาก พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 ซึ่งทั้งสองคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2547 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตากใบ ได้จับกุมตัว นายกามา อาลี กับพวกรวม 6 คน ผู้ต้องหา ที่เป็นอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) กรณีนำอาวุธลูกซองของราชการ ที่ใช้คุ้มครองหมู่บ้านไปมอบให้แก่คนร้าย แล้วแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานว่า อาวุธปืนดังกล่าวถูกคนร้ายปล้นไป จึงถูกดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จและยักยอกทรัพย์

ต่อมาในวันที่ 25 ตุลาคม 2547 เวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีประชาชนเป็นกลุ่มมวลชนประมาณ 300 - 400 คน มาชุมนุมกันที่หน้า สภ.ตากใบ เรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมดทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข และมีประชาชนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลา 13.00 น. พล.ท.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี แม่ทัพภาคที่ 4 (ในขณะนั้น) ได้สั่งให้เลิกการชุมนุม ซึ่งพื้นที่ อ.ตากใบ ในช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ระหว่างการประกาศการใช้กฎอัยการศึก รวมทั้งได้ตามกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บิดามารดาของผู้ต้องหาทั้งหกมาร่วมเจรจา แต่ไม่เป็นผล โดยผู้ชุมนุมเสนอเงื่อนไขเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องหาทั้งหมดทันที พร้อมทั้งโห่ร้องขับไล่ยั่วยุเจ้าหน้าที่ เหตุการณ์วุ่นวายได้เพิ่มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พล.ต.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ผู้ต้องหาที่ 1 ในคดีวิสามัญฆาตกรรม (ยศในขณะนั้น) ได้เรียกกำลังจากหน่วยต่างๆ และจัดรถยนต์บรรทุก จำนวน 25 คัน มาเตรียมพร้อมสลายการชุมนุม จนกระทั่งในเวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่จึงเข้าสลายการชุมนุม และจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงขึ้นรถบรรทุกทั้ง 25 คัน เฉลี่ยคันละ 40 - 50 คน เพื่อออกเดินทางในเวลาประมาณ 19.00 น.นำผู้ชุมนุมทั้งหมดไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ถึงค่ายอิงคยุทธบริหาร เวลาประมาณ 21.00 น.เมื่อนำผู้ถูกควบคุมลงจากรถบรรทุก ปรากฏว่า มีผู้ถูกควบคุมถึงแก่ความตายทั้งหมด 78 คน โดยรถบรรทุกที่มีผู้ถึงแก่ความตาย มีผู้ต้องหาที่ 2, 3, 4, 5, 6 และ 8 เป็นพลขับ โดยมีผู้ต้องหาที่ 7 เป็นผู้ควบคุมขบวนรถ พนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้กล่าวหาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรมและสำนวนชันสูตรพลิกศพ โดยทั้งสองคดีมีรายละเอียด ดังนี้

1.สำนวนวิสามัญฆาตกรรม มี พ.ต.อ.พัฒนชัย ปาละสุวรรณ เป็นผู้กล่าวหา มีผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีตผู้บัญชาการ พล.ร.5 (ขณะนั้น) ผู้ต้องหาที่ 1 , ร.ต.ณัฐวุฒิ เลื่อมใส ผู้ต้องหาที่ 2 , นายวิษณุ เลิศสงคราม ผู้ต้องหาที่ 3 , ร.ท.วิสนุกรณ์ ชัยสาร รน.ผู้ต้องหาที่ 4 , นายปิติ ญาณแก้ว ผู้ต้องหาที่ 5 , พ.จ.ต.รัชเดช หรือ พิทักษ์ ศรีสุวรรณ รน.ผู้ต้องหาที่ 6 , พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ ผู้ต้องหาที่ 7 , ร.ท.โท ฤทธิรงค์ พรหมฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 8 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 288 คดีดังกล่าว ซึ่งพนักงานสอบสวนเห็นควรสั่งไม่ฟ้อง โดยอ้างว่าผู้ต้องหาทั้งหมดปฏิบัติราชการตามหน้าที่

2.สำหรับสำนวนชันสูตรพลิกศพเกี่ยวกับการตายของผู้ที่ถูกควบคุมตัวทั้ง 78 คนดังกล่าว พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2547 และพนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อไต่สวนชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอนของกฎหมายในปีเดียวกัน

ต่อมาในระหว่างไต่สวน ได้มีการโอนสำนวนมาทำการไต่สวนที่ศาลจังหวัดสงขลา โดยญาติผู้ตายได้แต่งตั้งทนายเข้ามาถามค้านการไต่สวนของศาลด้วย และในปี 2548 ศาลจังหวัดสงขลาได้ไต่สวนเสร็จสิ้น และมีคำสั่งว่าผู้ตายทั้ง 78 คน ตายที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย คือ ผู้ตายทั้ง 78 คน ขาดอากาศหายใจ ในระหว่างอยู่ในการควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หลังจากศาลมีคำสั่งได้ส่งคืนคำสั่งพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับพนักงานอัยการ และในปี 2548 พนักงานอัยการได้ส่งเอกสารที่ได้รับจากศาลพร้อมถ้อยคำสำนวนทั้งหมดคืนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินการส่งเอกสารทั้งหมด พร้อมสำนวนวิสามัญฆาตกรรมให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณามีความเห็นและคำสั่ง ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจในการสั่งคดีวิสามัญฆาตกรรม ซึ่งผู้ตายถูกเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ฆ่าตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) มาตรา 143 วรรคท้าย

3.หลังจากอัยการสูงสุดได้รับสำนวนวิสามัญฆาตกรรมและสำนวนไต่สวนชันสูตรพลิกศพของศาลจังหวัดสงขลา จาก พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.แล้ว ได้มีคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น และกำหนดให้ส่งผลการสอบสวนเพิ่มเติม ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ต่อมา พนักงานสอบสวนได้ส่งผลสอบสวนทั้งหมดให้กับอัยการสูงสุด ในวันที่ 20 สิงหาคม 2567

ต่อมา วันที่ 12 กันยายน 2567 อัยการสูงสุดพิจารณาสำนวนแล้วมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งแปดโดยวินิจฉัยว่า จากพยานหลักฐานที่ได้จากการไต่สวน แม้ผู้ต้องหาทั้งแปด คือ พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร ผู้ต้องหาที่ 1 , ร.ต.ณัฐวุฒิ เลื่อมใส ผู้ต้องหาที่ 2 , นายวิษณุ เลิศสงคราม ผู้ต้องหาที่ 3 , ร.ท.วิสนุกรณ์ ชัยสาร รน.ผู้ต้องหาที่ 4 , นายปิติ ญาณแก้ว ผู้ต้องหาที่ 5 , พ.จ.ต.รัชเดช รน.หรือ พิทักษ์ ศรีสุวรรณ ผู้ต้องหาที่ 6 , พ.ท.ประเสริฐ มัทมิฬ ผู้ต้องหาที่ 7 และ ร.ท.โท ฤทธิรงค์ พรหมฤทธิ์ ผู้ต้องหาที่ 8 จะไม่ประสงค์ต่อผลที่จะให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็ตาม แต่การจัดหารถเพียงจำนวน 25 คัน ในการบรรทุกผู้ชุมนุมประมาณพันกว่าคน อันเป็นการบรรทุกที่แออัดเกินกว่าจะเป็นวิธีการบรรทุกคนที่เหมาะสม โดยผู้ต้องหาที่ 1 ที่ 7 รู้อยู่แล้วว่าจำนวนรถกับจำนวนคนไม่เหมาะสมกัน ผู้ต้องหาที่ 2 ถึงที่ 6 และที่ 8 ซึ่งเป็นคนขับรถก็เห็นถึงสภาพการบรรทุกผู้ชุมนุมดังกล่าว อันเป็นเหตุให้ผู้ตายทั้ง 78 คน ขาดอากาศหายใจในระหว่างอยู่ในความควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามหน้าที่

การกระทำของผู้ต้องหาทั้งแปดย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้ผู้ตายขาดอากาศหายใจและถึงแก่ความตายได้ ดังนั้น การกระทำของผู้ต้องหาทั้งแปดจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น คดีมีพยานหลักฐานพอฟ้อง จึงมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งแปดตามข้อกล่าวหาดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ได้เรียกผู้ต้องหาที่ 1 ถึงที่ 8 มารับข้อกล่าวหาตามข้อกล่าวหา เมื่ออัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องดังกล่าวแล้ว อัยการสูงสุดได้แจ้งคำสั่งไปยัง ผบ.ตร.เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาทั้งแปด พร้อมแจ้งสิทธิและพฤติการณ์แห่งคดีตาม ป.วิอาญา มาตรา 134 และส่งตัวให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการจังหวัดปัตตานี ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม สำหรับคดีที่ญาติผู้ตาย และบาดเจ็บรวม 48 ราย ยื่นฟ้องจำเลย และศาลมีคำสั่งประทับฟ้องคดีไว้พิจารณา มีจำเลย ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 คือ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ปัจจุบันอายุ 74 ปี เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย , จำเลยที่ 3 พล.ท.สินชัย นุตสถิตย์ อดีตผู้บัญชาการ พล.ร.5 ปัจจุบันอายุ 76 ปี , จำเลยที่ 4 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ปัจจุบัน อายุ 73 ปี , จำเลยที่ 5 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ปัจจุบัน อายุ 77 ปี , จำเลยที่ 6 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีตผู้กำกับสถานีตำรวจภูธร อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปัจจุบัน อายุ 70 ปี , จำเลยที่ 8 นายศิวะ แสงมณี อดีตรองผู้อำนวยการกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และอดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันอายุ 78 ปี , จำเลยที่ 9 นายวิชม ทองสงค์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันอายุ 78 ปี ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาสออกหมายจับจำเลย 6 คนไว้ เนื่องจากไม่มาศาลตามนัด ยกเว้น พล.อ.พิศาล เนื่องจากมีเอกสิทธิ์คุ้มครองจากสภา ซึ่งศาลนัดพิจารณาคดีอีกครั้ง 15 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น.

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง คดี ม.112 \'พอล แชมเบอร์ส\' เหตุไม่ปรากฏเป็นผู้โพสต์ อัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง คดี ม.112 'พอล แชมเบอร์ส' เหตุไม่ปรากฏเป็นผู้โพสต์
  • ด่วน! คนร้ายปะปนเป็นชาวบ้าน ยิงงานกีฬาสีต้านยาเสพติดที่ตากใบ \'ครู-อส.\'เจ็บ 3 ด่วน! คนร้ายปะปนเป็นชาวบ้าน ยิงงานกีฬาสีต้านยาเสพติดที่ตากใบ 'ครู-อส.'เจ็บ 3
  • \'ผบ.ทบ.\'ประณามคนร้ายโหดเหี้ยมยิงเด็ก-คนชรา จชต. ยกระดับดูแลความปลอดภัยสูงสุด 'ผบ.ทบ.'ประณามคนร้ายโหดเหี้ยมยิงเด็ก-คนชรา จชต. ยกระดับดูแลความปลอดภัยสูงสุด
  • มทภ.4 พบชาวไทยพุทธตากใบ ซัดผู้ก่อเหตุไร้มนุษยธรรม สั่งไล่ล่าตัวเอาคนผิดมาลงโทษ มทภ.4 พบชาวไทยพุทธตากใบ ซัดผู้ก่อเหตุไร้มนุษยธรรม สั่งไล่ล่าตัวเอาคนผิดมาลงโทษ
  • ด่วน! คนร้ายกราดยิงชาวไทยพุทธ ที่ตากใบ เสียชีวิต 3 มีเด็ก 9 ขวบด้วย ด่วน! คนร้ายกราดยิงชาวไทยพุทธ ที่ตากใบ เสียชีวิต 3 มีเด็ก 9 ขวบด้วย
  • อสส.ร่วมหารือทูตจีน ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรข้ามชาติ อสส.ร่วมหารือทูตจีน ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรข้ามชาติ
  •  

Breaking News

นักวิชาการ มธ.เตือนผลพวงเลวร้าย‘สงคราม’ ชี้ไม่ใช่แค่เรื่องอารมณ์-ความรู้สึก

'กองทัพบก' ประกาศกร้าว 'สนับสนุนทหาร ไม่ใช่สนับสนุนสงคราม'

‘ปลากะพงขาว’ฮีโร่ปราบ‘ปลาหมอคางดำ’ ฟื้นฟูระบบนิเวศ-ช่วยเกษตรกร

หอการค้าศรีสะเกษเผยดุลการค้าช่องสะงำพุ่ง 1.9 พันล้านชี้หากปิดด่าน'ชาวกัมพูชา'เจ็บหนักสุด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved