ฝนถล่มภาคเหนือ-อ่วมซ้ำอีก

ลำปางดับแล้ว1

พะเยา-เชียงใหม่ท่วมหลายจุด

หนองคายฟื้นฟูพื้นที่

ปภ.สรุปยังท่วม6จว.

อุตุฯชี้ฝนหนักทั่วไทย

ปภ.สรุป 6 จังหวัดยังเผชิญน้ำท่วม กรมอุตุฯเตือนฝนหนักทั่วไทย ส่วน ร.ฟ.ท.แจ้งปิดเส้นทางลำปาง-เชียงใหม่ ภายหลังเกิดดินสไลด์ด้าน จ.ลำปาง น้ำป่าซัดบ้านพัง ดับแล้ว 1 ศพขณะที่เชียงใหม่ ฝนกระหน่ำ ทำน้ำท่วมหลายพื้นที่ มท.1 ชงครม.อนุมัติงดเก็บค่าน้ำ-ค่าไฟเดือนกันยายนช่วยผู้ประสบอุทกภัย

เมื่อวันที่ 23 กันยายน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม-23 กันยายน 2567 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 33 จังหวัด รวม 175 อำเภอ 766 ตำบล 4,017 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 160,739 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตรวม 46 ราย และได้รับบาดเจ็บรวม 24 คน ปัจจุบัน ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ลำปาง พิษณุโลก หนองคาย นครพนม และพระนครศรีอยุธยา รวมพื้นที่ได้รับผลกระทบ 27 อำเภอ 130 ตำบล 598 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,087 ครัวเรือน

ปภ.ระดมทุกฝ่ายช่วยน้ำท่วม

ทั้งนี้ ปภ.ได้ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถผลิตน้ำดื่ม รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถบรรทุกเล็ก รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในภาคอื่น ร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ซึ่งเกิดสถานการณ์ภัย

อุตุฯเตือนทั่วไทยมีฝนตกหนัก

ด้าน น.ส.กรรวี สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ฉบับที่ 6 (212/2567) มีผลกระทบถึงวันที่ 23 กันยายน 2567 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะไหหลำ ประเทศจีน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันตกเฉียงใต้และลมฝ่ายตะวันออกบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง และภาคใต้ตอนล่าง

อันดามัน-อ่าวไทยคลื่นสูง2เมตร

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา และอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป และอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

รฟท.แจ้งปิดเส้นทางเชียงใหม่

วันเดียวกัน ฝ่ายประชาสัมพันธ์การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่าภายหลังเกิดดินสไลด์และน้ำป่าเซาะหินรองรางรถไฟระหว่างสถานีแม่ตานน้อย-ขุนตาน-ทาชมภู เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา จึงประกาศปิดทาง ช่วงสถานีลำปาง-เชียงใหม่ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ หลังจากงดเดินขบวนรถช่วงดังกล่าว ได้ขนถ่ายผู้โดยสารด้วยรถยนต์จากสถานีนครลำปาง ไปยังสถานีลำพูนและสถานีเชียงใหม่ โดยในวันที่ 24 กันยายน 2567 ขบวนรถไฟเส้นทางเชียงใหม่ทุกขบวนจะให้บริการแค่สถานีนครลำปาง และมีบริการรถบัสรับส่งไปสถานีขุนตาน ลำพูน และเชียงใหม่

ทหารช่วยล้างดินโคลนตามบ้าน

ที่ จ.หนองคาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน และกำลังพลชุดปฏิบัติการช่วยเหลืออุทกภัย เข้าทำความสะอาดชะล้างบ้านเรือนประชาชนผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่บ้านเวียงคุก ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากระดับน้ำลดลงแล้ว โดยนำเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงฉีดล้างดินโคลนที่มากับน้ำออกจากอาคารบ้านเรือน ถนนทางเข้าบ้านตามซอยต่างๆ ให้สะอาดเรียบร้อย ซึ่งพบว่าดินโคลนมีปริมาณมาก หากทิ้งไว้นานก็จะเกาะกันแน่นล้างออกได้ยาก ในส่วนของโรงเรียนต่างๆ ที่ประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา ได้กลับมาเปิดการเรียนการสอนแล้ว

ลำปางน้ำป่าท่วมบ้าน300หลัง

ที่ จ.ลำปาง เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากใน อ.ห้างฉัตร ส่งผลกระทบในหลายหมู่บ้าน มีผู้ติดค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยที่บ้านห้วยเรียน ทางกู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในรถ ท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว และช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ในที่พัก ออกมายังจุดที่ปลอดภัย ส่วนที่บ้านปางปง-ปางทราย น้ำป่าพัดบ้านที่อยู่ใกล้ห้วยพัง โดยเจ้าของบ้านถูกกระแสน้ำพัดไปด้วย ซึ่งทางกู้ภัยได้ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาที่ รพ.แต่ยังมีหญิงชราวัย 70 ปี หายตัวไป ทั้งนี้ อ.ห้างฉัตร ถูกน้ำป่าไหลหลากและลำน้ำแม่ตาลล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนไม่ต่ำกว่า 300 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังเกิดดินสไลด์ ต้นไม้ล้มขวางถนน สะพานบนถนนลอดทางรถไฟบ้านปางปง มีน้ำท่วมสูง ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้องเร่งเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน

ดับแล้ว1-โร่เตือนพื้นที่ท้ายน้ำ

ขณะที่ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำปาง แจ้งว่าช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่บ้านแม่เฮียว หมู่ 7 ต.วังเหนือ อ.วังเหนือ โดยน้ำได้เอ่อล้นเข้าบ้านเรือน 6 หลัง ทางนายอำเภอวังเหนือ ได้สั่งการให้ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อพยพคน สิ่งของ แจ้งเตือนหมู่บ้านท้ายน้ำเตรียมรับมวลน้ำ

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าได้พบผู้สูญหายเป็นหญิงชราวัย 70 ปี หลังจากถูกน้ำพัดมาจากพื้นที่บ้านปางปง-ปางทราย โดยเสียชีวิตแล้ว พบร่างที่บริเวณบ้านแม่ตาลน้อย ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร

พะเยาฝนกระหน่ำน้ำท่วมพื้นที่

ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีฝนตกหนักตลอดวัน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าหลากเข้าท่วมไร่นา ถนน บ้านเรือนชาวบ้านกว่า 100 หลังคาเรือนใน อ.เมือง จ.พะเยา ลำน้ำสายต่างๆ ทั้งลำน้ำอิง กว๊านพะเยา และแหล่งกักเก็บน้ำ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยมีการเร่งระบายน้ำออกจากกว๊านพะเยา เนื่องจากน้ำได้ไหลท่วมชุมชนรอบกว๊าน เขตเศรษฐกิจตัวเมืองพะเยา ทำให้ชาวบ้านต่างหวาดผวาเกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมอีก เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่วนที่ชุมชนบ้านห้วยเคียน หอพักนิสิตหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา ต.แม่กา และชุมชนบ้านแม่ต๋ำ อ.เมือง จ.พะเยา รวมทั้งน้ำร่องช้าง อ.ดอกคำใต้ ระดับน้ำลดลงแล้ว

เชียงใหม่อ่วมฝนหนักทำน้ำท่วม

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ภายหลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ อ.แม่วาง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดน้ำไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ หมู่ 3 และหมู่ 9 ต.บ้านกาด อ.แม่วาง โดยนางจริยา วงศ์สุวรรณ์ นายอำเภอแม่วาง ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง สมาชิกกองร้อย อส.ร้อย อ.แม่วางที่ 23 บูรณาการร่วมกับทาง อบต.บ้านกาด เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยอย่างเร่งด่วน มีการนำกระสอบทรายวางกั้นมวลน้ำไม่ให้เข้าบ้านเรือนประชาชนเพิ่มมากขึ้น

ผู้ว่าฯตั้งศูนย์บัญชาการช่วยเหลือ

ขณะที่ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและสิ่งสาธารณะประโยชน์ใน 6 ตำบล 9 หมู่บ้าน ดังนี้ ต.แม่แรม หมู่ 1,2,5 และ 6 ต.ริมใต้ หมู่ 6 ต.ริมเหนือ หมู่ 2 ต.ขี้เหล็ก หมู่ 7 ต.ห้วยทราย หมู่ 4 ต.โป่งแยง หมู่ 2 ทางนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ.เชียงใหม่ ได้มอบหมายให้นายอำเภอแม่ริม พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิก อส.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการช่วยเหลือประชาชนฯ ในพื้นที่แล้ว

มท.1ยันสถานการณ์น้ำควบคุมได้

อีกด้านหนึ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ มีการระบายของน้ำ เช่น แม่น้ำโขง จำนวนมากแล้ว ระดับน้ำลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ สิ่งที่เรากังวลและต้องเร่งดำเนินการคือการช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนที่ประสบอุทกภัย บ้านเรือนที่ถูกดินโคลน ต้องช่วยกันตักดินออกและทำความสะอาด ซึ่งทุกภาคส่วนได้เข้าไปช่วยเหลือ รวมถึงการจัดการขยะซึ่งต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ ขณะที่ระบบสาธารณูปโภค เส้นทางคมนาคม ไฟฟ้า ประปา เริ่มกลับคืนมามากกว่า 80% แล้ว

ยกเว้นค่าไฟ-น้ำประปาเดือนก.ย.

“การช่วยเหลือเยียวยานั้น ทางคณะรัฐมนตรี รับทราบแล้ว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย กำลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี หากเป็นไปได้ในวันที่ 24 กันยายนนี้ จะเสนอยกเว้นการเก็บค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ในเดือนกันยายน ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัย ทั้งนี้ หากมีความผิดพลาด มีการออกบิลไปแล้ว ในส่วนของค่าไฟ ประชาชนก็ไม่ต้องชำระ และถ้ามีความลำบากในเรื่องของการชำระค่าไฟในเดือนก่อนๆ ให้แจ้งความจำนงขอผ่อนค่าไฟได้ และจะไม่มีการตัดไฟ หรือยกเลิกการให้บริการทั้งไฟฟ้าและประปาในพื้นที่ประสบภัยเป็นอันขาด” นายอนุทิน กล่าว

เกษตรฯกำหนด3มาตรการช่วย

ที่รัฐสภา นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้แทน รมว.เกษตรฯ ตอบกระทู้ถามของ สว.เรื่องมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกรจากอุทกภัย และแนวทางยุทธศาสตร์การบูรณการจากกระทรวงต่างๆ ในการป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นในอนาคต ว่ากระทรวงเกษตรฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บริหารจัดการมาตลอด โดยมีข้อสั่งการให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อเยียวยาให้เกษตรกร และมีแผนงานฟื้นฟูภายหลังน้ำลด 3 มาตรการ คือ 1.การฟื้นฟูอาชีพ เตรียมพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์น้ำ ให้เกษตรกรกลับมาประกอบอาชีพได้โดยเร็ว 2.ฟื้นฟูพื้นที่ทางเกษตรให้กับสู่ภาวะปกติ และ 3.ลดหนี้สินให้กับสมาชิกสถาบันการเกษตรและขยายเวลาชำระหนี้