รวบตัวการใหญ่'เครือข่ายแก๊งไนจีเรีย' จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ พบเงินหมุนกว่า 1,200 ล้าน

รวบตัวการใหญ่'เครือข่ายแก๊งไนจีเรีย' จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ พบเงินหมุนกว่า 1,200 ล้าน

วันพุธ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567, 19.32 น.

DSI ขยายผล Operation Black Horse Down จับกุมตัวการใหญ่ "เครือข่ายแก๊งชาวไนจีเรีย" จัดหาบัญชีม้าทั่วประเทศ  พบเงินหมุน เวียนกว่า 1,200 ล้านบาท และเชื่อมโยงบัญชีม้ากว่า 1,000 บัญชี

ตามที่กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เปิดปฏิบัติการคดีพิเศษที่ 95/2566 Operation Black Horse Down (ล้มบัญชีม้าดำ) กรณีชาวไทยร่วมกับชาวต่างชาติสัญชาติไนจีเรียหลอกลวงผู้เสียหายในลักษณะโรแมนซ์สแกมหลายราย และจัดหาคนมาเปิดบัญชีม้าจากทั่วประเทศส่งให้กับกลุ่มอาชญากรรมต่าง ๆ เชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โรแมนซ์สแกม ยาเสพติด พบเงินหมุน เวียนกว่า 1,200 ล้านบาท และเชื่อมโยงบัญชีม้ากว่า 1,000 บัญชี และร่วมกันยักย้ายเงินออกจากบัญชีม้าส่งต่อให้กับกลุ่มเครือข่ายของตนเชื่อมโยงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 8 ราย จนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับ สำนักงาน ปปง. และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เข้าทำการตรวจค้นสถานที่ จำนวน 5 แห่ง และจับกุมผู้ต้องหาชาวไนจีเรียและชาวไทยได้จำนวน 6 คน 
 
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ สืบสวนขยายผลทราบว่า
นายคริสเตียน (สงวนนามสกุล) สัญชาติไนจีเรีย ซึ่งเป็นตัวการใหญ่ของเครือข่ายดังกล่าว ถูกเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมืองฯ จึงได้เดินทางมาอายัดและจับกุมตัว นายคริสเตียนฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 4616/2567 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน พนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้นำตัวไปสอบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น ๆ ซึ่งจากการข่าวทราบว่ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกจำนวนหนึ่ง และจะบูรณาการร่วมกับสำนักงาน ปปง. ในการสืบสวนเส้นทางการเงินและติดตามยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องของกลุ่มขบวนการดังกล่าวต่อไป


 กรมสอบสวนคดีพิเศษ ขอแจ้งเตือนมายังพี่น้องประชาชนว่า การเปิดบัญชีม้าเพื่อให้คนร้ายไปกระทำความผิด ท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อสาธารณะต่าง ๆ ทุกวัน จะปฏิเสธว่าไม่ทราบข่าวสารไม่ได้ ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษหรือแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับคดีความผิด สามารถติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางเว็บไซต์ www.dsi.go.th แบนเนอร์ “ร้องเรียน ร้องทุกข์ แจ้งเบาะแส” เพื่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป       
 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top