ผู้ว่าเมืองย่าโม นำข้าราชการ-ปชช.ร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ 89 รูป เนื่องในวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ
5 ธันวาคม 2567 ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมได้นำหัวหน้าส่วนราชการ ศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ และพี่น้องประชาชนที่ต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองทุกหมู่เหล่า กว่า 500 คน ร่วมกับ ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา และเทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แด่พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงความจงรักภักดี รวมทั้งเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ ร่วมกันประกอบพิธีถวายเครื่องสักการะ วางพานพุ่ม ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวงรัชกาลที่ 9
'กระบี่' จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ
นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 โดยมีนางศรินทิพย์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ทุกหมู่เหล่าร่วมพิธี ณ บริเวณพระอุโบสถ วัดแก้วโกวราราม พระอารามหลวง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความสมัครสมานสามัคคีของชาวจังหวัดกระบี่
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนบูชาเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระสงฆ์ให้ศีลและพระสงฆ์ 10 รูปเจริญพระพุทธมนต์ หลังจากนั้นประธานในพิธีพร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการถวายเครื่องไทยธรรมและทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ อนุโมทนา กรวดน้ำรับพร พระสงฆ์ออกบิณฑบาต ผู้ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุและสามเณร จำนวน 89 รูป และ เวลา 08.30 น. จังหวัดกระบี่ได้จัดพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ ณ ห้องประชุมช้างเผือก องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ด้วย
วันพ่อแห่งชาติเครือข่ายครอบครัวเดียวกัน นำชาวบ้านปลูกผักกินเองตามรอยพอเพียงพ่อหลวง ร.9 สร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ชุมชนรองรับวิกฤตโลก
วันพ่อแห่งชาติ ปี2567 ในรัชกาลที่ 9 ที่บริเวณพื้นที่สาธารณะว่างเปล่าชุมชนบ้านโป่งนก ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ชาวบ้าน 4 หมู่บ้าน ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านจากบ้านตะโกทอง ต.ตะโกทอง อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ กว่า 100 คน ต่างให้ความสนใจรับฟัง และลงมือทำปฎิบัติในการปลูกพืชผักสวนครัว รูปแบบต่าง ๆ ทั้งการปลูกพืชผักลงดิน ปลูกพืชผักแบบออแกนิคปลอดสารพิษ ไว้กินเอง ขุดสระเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ดไก่ไว้กินเศษอาหาร นำมาประกอบอาหาร เหลือไว้ขายหารายได้เสริมเข้าครัวเรือน ตามหลักการที่ถูกต้อง ดั่งพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในสมัยรัชกาลที่ 9
โดยการนำของ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร สว.ชัยภูมิ หรือลุงเปี๊ยก พร้อมด้วย สว.รจนา เพิ่มพูน สว.อยุธยา สว.ปฏิมา จีระแพทย์ สว.กรุงเทพฯ สว.นิชาภา สุวรรณนาค สว.ประจวบคีรีขันธ์ สว.พญ.เกษกมล เปลี่ยนสมัย สว.เพชรบุรี ร่วมกันที่จะเดินหน้าสร้างผู้นำต้นแบบสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืนกระตุ้นชุมชนตื่นตัวรับวิกฤตโลก ที่กำลังเข้าสู่ยุคโลกเดือด ตั้งแต่การเกิดโรคระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีประชากรโลกต้องล้มตายจำนวนมากหลายล้านคนแล้ว ยังก่อให้เกิดปัญหาทางเศรฐกิจแผ่ขยายไปทั่วโลก...เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย มีจำนวนหนี้สาธารณะ และหนี้ครัวเรือนของคนไทยอยู่ในระดับสูงใกล้ขีดอันตราย..มีผู้ประกอบการโรงงานหลายแห่งได้ทยอยปิดกิจการอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะปัญหาคนตกงานมากขึ้น จึงได้นำหลักการ สนองพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระบรมราโชวาทฯ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2517 มีการรวมกลุ่มจิตอาสา “ครอบครัวเดียวกัน” ในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพื่อรองรับต่อสถานการณ์โลกเดือดที่กำลังเป็นอยู่ ด้วยการริเริ่มศึกษาลำดับขั้นตอน การพอมี พอกิน พอใช้ ได้ร่วมกัน ศึกษาดูงานการดำเนินการเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง จากหน่วยงาน และสถานที่ต่างๆเช่น วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี วัดถ้ำกระบอก จังหวัดสระบุรี วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี
สำหรับในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ได้ร่วมมือของกลุ่มจิตอาสา "ครอบครัวเดียวกัน" เริ่มจากพี่น้องประชาชน 4 หมู่บ้าน ชาวตำบลโป่งนก อำเภอเทพสถิตย์ จังหวัดชัยภูมิ ประกอบด้วย 1.บ้านโป่งนก 2.บ้านโป่งขุนเพชร 3 บ้านหนองไม้แก่น และ 4 บ้านโป่งนกสามัคคี ให้เป็นหมู่บ้านนำร่อง ตามรอยพ่อ ร.9 พอเพียงปลูกพืชผักไว้กินเองเหลือขาย มุ่งหวังสร้างความมั่นคงทางอาหารสู่ชุมชนรองรับวิกฤตโลก เริ่มจากการสร้างอาหารไว้กินภายในครอบครัว และมีการสร้างแปลงปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ ปลูกข้าวไว้กินเอง ขุดสระเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ดไก่ไว้กินเศษอาหาร นำมาประกอบอาหาร เหลือไว้ขายหารายได้เสริมเข้าครัวเรือนและอื่นๆตามขนาดของแต่ละพื้นที่รวมถึงยังมีการปลูกพืชผักออแกนิค ปลอดสารพิษ ไว้กินในครัวเรือนและขายสร้างได้อีกด้วย ซึ่งการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับทุกครอบครัวไทยอย่างยั่งยืน ไม่เพียงเป็นแก้ปัญหาทำให้รอดพ้นจากปัญหาปากท้อง/และความอดอยากเข็ญและทำให้พึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริวแล้ว... ยังสร้างความอยู่ดีมีสุขของคนไทย การมีสถาบันครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็งนั้น ก็จะกลายเสาเข็ม เป็นฐานรากที่มั่นคงของประเทศไทย แม้จะมีวิกฤตใดเกิดขึ้น.. ไม่มีเงิน หรือเงินใช้ไม่ได้ ลูกหลานและสมาชิกในครอบครัว ก็จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ พอมี พอกิน พอใช้ ได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี
ขณะที่ด้านนายวรวิทย์ นามมหานวล นายอำเภอเทพสถิต และพร้อมด้วยนายวชิรพงศ์ ขุนทดธีรสวัสดิ์ นายก อบต.โป่งนก อ.เทพสถิต กล่เผยหลังได้นำการตามรอยพ่อ ร.9 พอเพียงปลูกพืชผักไว้กินเอง ในหมู่บ้านเป้าหมายทั้ง 4 หมู่บ้าน ต.โป่งนกแล้ว มีการขยายไปอีก 1 หมู่บ้าน ที่บ้านตะโกทอง ต.ตะโกทอง อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ รวมเป็น 5 หมู่บ้าน ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ที่จะเป็นหมู่บ้านนำร่องครัวโลก ตื่นเช้าขึ้นมาไม่ต้องซื้อผัก นำปลา ไข่ไก่ ไข่เป็ด และอื่นๆ ที่ปลูกและเลี้ยงไว้ในพื้นที่บ้านตัวเองนำมาประกอบอาหารได้ แถมปลอดสารพิษด้วย เพื่อให้จังหวัดชัยภูมิเป็นจังหวัดต้นแบบ เพื่อความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน และเป็นต้นแบบให้กับทุกจังหวัด ยังสร้างความอยู่ดีมีสุขของคนไทย การมีสถาบันครอบครัวและชุมชนที่เข้มแข็งนั้น ก็จะกลายเสาเข็ม เป็นฐานรากที่มั่นคงของประเทศไทย พร้อมที่จะนำจุดแข็งมาพัฒนาต่อยอดให้ประเทศไทยของเรามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นมหาอำนาจทางอาหาร เป็นครัวโลกและนำพาเศรษฐกิจไทยให้เจริญรุ่งเรืองสิวิไลได้อย่างแท้จริงต่อไป
ประชาชนทุกภาคส่วนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูปถวายพระราชกุศล เนื่องในพ่อวันพ่อแห่งชาติ
ที่บริเวณลานสาครบุรี ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ตำบลมหาชัน อำเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประธานเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ โดยมีนางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสมุทรสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด รอง.กอ.รมนจังหวัด สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนจังหวัดสมุทรสาคร เข้าร่วมพิธี
โดยนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฯ ประธานฯ จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จากนั้น โดยมีพระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์สมณศักดิ์ รวม 10 รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ประธานในพิธี พร้อมผู้บริหารจังหวัดสมุทรสาคร ทอดผ้าไตร 10 ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ถวายอดิเรก กรวดน้ำและรับพร เป็นอันเสร็จพิธี
จากนั้น ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำประชาชนทุกภาคส่วนในจังหวัดสมุทรสาครร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป ถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2567 โดยประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาครที่มาร่วมทำบุญตักบาตร ต่างพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลือง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมน้อมนำพระราชดำรัสของพระองค์มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป
พสกนิกรชาวบุรีรัมย์ ร่วมทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ ในหลวง รัชกาลที่ 9
นายจำเริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลยุติธรรม เหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ องค์กรอิสระ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ประชาชาชนจิตอาสา ตลอดทั้งพสกนิกรชาวบุรีรัมย์ทุกหมู่เหล่า ทำบุญตักบาตรอาหารแห้ง พระสงฆ์ 189 รูป ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ที่ลานด้านหน้าสนามช้างอารีนา ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมี พระธรรมวชิรสุตาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดบุรีรัมย์ และพระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ ซึ่งการประกอบพิธีทำบุญตักบาตรฯ ข้าราชการแต่งชุดปกติขาว ส่วนประทั่วไปต่างพร้อมใจกันสวมใส่ชุดโทนสีเหลือง ไปร่วมทำบุญตักบาตรกันเป็นครอบครัว แสดงออกถึงเชื่อมสัมพันธ์อันดีและสร้างความรักความอบอุ่นในครอบครัว แสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย อันหาที่สุดมิได้
พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นพระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 เป็นพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงครองราชสมบัติยาวนานที่สุดในประเทศไทย พระองค์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2470 และเสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยตลอดระยะเวลา 70 ปี ของการครองราชย์ ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระสติปัญญาปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแห่งปวงพสกนิกร โครงการในพระราชดำริน้อยใหญ่จำนวน 5,151 โครงการก่อให้เกิดประโยชน์อย่างอเนกอนันต์แก่ประเทศชาติ
ทั้งได้พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นแนวทางให้อาณาประชาราษฎร์ได้ดำเนินชีวิตโดยใช้ความรู้และสติปัญญาเป็นภูมิคุ้มกัน อีกทั้งยังก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนของประเทศต่าง ๆ ที่ได้น้อมนำแนวทางพระราชทานไปปฏิบัติ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาลขจรขจายไปทั่วทิศานุทิศทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และใช้เวลาส่วนพระองค์เสด็จเยี่ยมประชาชนในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง
ชาวอำนาจเจริญ ทำบุญตักบาตร ทำความสะอาด วันพ่อแห่งชาติ
จังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และ วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ พุทธอุทยาน พระมงคลมิ่งเมือง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย ตุลาการ อัยการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร พระภิกษุ สามเณร จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และแสดงออกถึงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์มีต่อประชาชนชาวไทย ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน ทรงดำรงมั่นในทศพิศราชธรรม และ ทรงยึดมั่นในพระปฐมบรมราชโองการ “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”สร้างความผาสุกให้กับประเทศและอาณาประชาราษฎร์โดยถ้วนหน้า
ต่อมา เวลา 09.00 น. วันเดียวกัน นายณรงค์ เทพเสนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ
นอกจากนี้ ได้มีกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน อาสาพัฒนา เนื่องในวันในวันสำคัญของชาติไทย เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ และวันดินโลก 5 ธันวาคม 2567 ณ ตลาดริมอ่างสวนพุทธอุทยานฝั่งหอแคน ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ โดยร่วมกันเก็บกวาดขยะมูลฝอย เก็บกวาดใบไม้ ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ซึ่งเป็นการร่วมใจกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ตามโครงการจิตอาสาพัฒนา “เราทำดี ด้วยหัวใจ” เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคี ความมีน้ำใจในสังคมไทย รวมถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการมุ่งทำประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อม สังคม และความเป็นอยู่ในชุมชน ให้มีสภาพที่สะอาดน่าอยู่ รวมถึงเป็นการประสานความร่วมมือกันทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะประชาชนจิตอาสาในการเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาพื้นฐานของชาติ ให้กับคนในชาติ ในชุมชน ให้มีความสุขยั่งยืน สนองพระราชปณิธาน รักษา สืบสาน ต่อยอด ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่ง ที่ช่วยสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนและทุกฝ่ายตระหนัก และให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาด สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับสถานที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งใช้ประโยชน์ร่วมกัน
'เชียงใหม่' จัดพิธีทำบุญตักบาตร และวางพานพุ่ม 'วันพ่อแห่งชาติ'
วันเดียวกัน ที่ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ศาล ทหาร ตำรวจ เจ้านายฝ่ายเหนือ ส่วนราชการ และประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมพิธี อย่างพร้อมเพรียงกัน
จากนั้นในเวลา 08.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำส่วนราชการ ร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ห้องนิทรรศการ 1 ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดจนแสดงออกถึงความจงรักภักดี และการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ และเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี