‘อัจฉริยะ’เข้าแจงหลักฐาน‘คดีแตงโม’ต่อ‘กมธ.กฎหมายฯ’ ฉุนเจอรุมเบรกหวั่น‘ล่วงเกินอำนาจองค์กรอิสระ-พาดพิงคนนอก-กระทบสำนวนคดี’ จะลุกออกห้องประชุม ด้าน‘ประยุทธ์’ชี้อยากเห็น‘หลักฐานใหม่’ไม่ใช่มาอ้างถึงคนอื่น

8 มกราคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 41 ที่มีนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นประธานกมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระที่กำลังอยู่ในความสนใจของสังคม เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของน.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรืแแตงโม อดีตดารานักแสดง โดยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าชี้แจงพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อกมธ.ฯ

ทั้งนี้ การประชุมดำเนินไปได้ระยะหนึ่ง โดยประธานในที่ประชุม ให้นายอัจฉริยะ ชี้แจงพยานหลักฐาน แต่ปรากฏว่าเกิดความไม่สบายใจของกมธ.ฯบางราย เพราะเห็นว่าอาจจะมีความเกี่ยวข้องไปถึงสำนวนคดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล รวมทั้งการกล่าวอ้างถึงบุคคลอื่นที่อยู่นอกห้องประชุมกมธ.ฯ

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษากมธ.ฯ กล่าวว่า ตนกังวล และหนักใจในการประชุมคณะกมธ.ฯครั้งนี้ เนื่องจากผู้ชี้แจง อาจจะมีการกล่าวโทษบุคคลอื่นนอกที่ประชุมกมธ.ฯ อาจจะทำให้เกิดภาพว่ากมธ.ฯมาเป็นผู้ชี้ว่าใครถูก ใครผิด ใครเข้าข้างคนนั้นคนนี้ การประชุมก็จะถูกบันทึกในชวเลขและทำให้เกิดความมิชอบ สิ่งที่เป็นประเด็นในวันนี้ที่ตนอยากจะต้องการ คือเรื่องของหลักฐานใหม่ที่นำมาชี้แจง เพราะหากเป็นการกล่าวหาทั่วไป การประชุมกรรมาธิการวันนี้ก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไร

ขณะที่นายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีตสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ปรึกษากมธ.ฯ กล่าวว่า อำนาจของกมธ.ฯ ต้องพึงระวัง และไม่ควรพิจารณา ในสิ่งที่องค์กรอิสระกำลังมีการพิจารณาคดี นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญก็มีการชี้ถึงมาตรฐานทางจริยธรรม ตนจึงอยากให้ระวังในการปฏิบัติหน้าที่ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกตรวจสอบได้ ซึ่งตนเห็นด้วยกับการที่กมธ.ฯ จะรับฟังแต่ไม่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีต้องมาชี้แจงเพราะอาจจะมีความเกี่ยวข้องและนำเรื่องของคดีความออกมาเปิดเผยก่อนคดีจะถูกตัดสิน ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่ถูกนำมาฟ้องร้องในภายหลัง ส่วนการที่เห็นว่าอัยการหรือหน่วยงานที่ตรวจสอบข้อมูลพิจารณาคดีไม่ถูกต้อง ตนขอแนะนำให้ไปตรวจสอบหรือร้องเรียนกับองค์กรอิสระที่จะตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานดังกล่าว

หลังจากการกล่าวของนายสุทัศน์ นายอัจฉริยะได้ แสดงท่าทีไม่พอใจ และต้องการที่จะขอถอนวาระและออกจากห้องประชุม แต่ประธานในที่ประชุม กล่าวเตือนให้ใจเย็น เพื่อให้ได้ชี้แจงกับที่ประชุมต่อไป

ส่วนพ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ แพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านนิติวิทยาศาสตร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พยายามจับแขนนายอัจฉริยะให้นั่งลง และชี้แจงกับประธานว่าตนจะพยายามไม่พาดพิงผู้ไปเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก จะพยายามกล่าวถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เป็นหลักฐานใหม่ในการทำคดี