ท่านเปาสอนกฎหมาย ศาลอาญาสั่งปล่อย“บอสแซม-บอส มิน ”หลังขังครบ 84 วัน ไม่ใช่การขังฟรี ตามที่มีผู้ให้ข้อมูล แต่เป็นขั้นตอนการขังระหว่างสอบสวนตามกฎหมาย ที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง เพรายังไม่ได้มีการพิจารณาชี้ผิดหรือถูกในศาล 

วันที่ 10 มกราคม 2568 เเหล่งข่าวจากจากศาลยุติธรรม ให้ความเห็นกรณีมีบุคคลออกมาโพสต์ถึงการที่ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยตัว นายยุรนันท์ ภมรมนตรี  หรือบอสแซม" และน.ส.พีชญา วัฒนามนตรีหรือ  บอสมิน  ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ดิ ไอคอน  โดยใช้คำว่า“ขังฟรี” ว่า กรณีที่ศาลอาญามีหมายปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งสองเป็นไปตามกฎหมายเนื่องจากพนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี และอัยการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาเนื่องจากอัยการมีความเห็นไม่ฟ้อง ศาลก็จะออกหมายปล่อยตัว ในชั้นนี้ผู้ต้องหาทั้งสองจึงถูกปล่อยตัวโดยยังไม่มีการพิจารณาคดีหรือสืบพยานในชั้นศาลว่า ได้กระทำผิดหรือไม่  ซึ่งการปล่อยตัวกรณีดังกล่าวเกิดจากดุลพินิจในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นโดยอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้งสองคน

โดยขั้นตอนทางกฎหมายจะมีหลักการทางกฎหมายในการตรวจสอบเพื่อถ่วงดุลอำนาจสั่งไม่ฟ้องของอัยการ โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอในฐานะพนักงานสอบสวนมีอำนาจทำความเห็นเเย้งเสนออัยการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องคดี  หากมีการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องคดีผู้ต้องหาทั้งสองคนก็จะกลับเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาลและตกเป็นจำเลยเช่นเดียวกับผู้ต้องหาอื่นๆที่อัยการสั่งฟ้อง

คดีของผู้ต้องหาทั้งสองคนก็จะยังต้องขึ้นสู่การพิจารณาของศาลจึงอยากให้ใจเย็นๆ เรื่องนี้จึงไม่ใช่การขังฟรีตามที่ มีบุคคลกล่าวอ้าง 

ส่วนที่บุคคลดังกล่าวระบุว่า “เเม้ศาลชั้นต้นยกฟ้องแล้ว ก็ยังสั่งขังต่อไปได้ ตราบใดที่คดียังไม่ถึงที่สุด” 

ซึ่งตรงนี้จะใช้ในกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุสงสัย หรือที่เรียกว่ายกประโยชน์ เเห่งความสงสัยให้จำเลย หากศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่าเเม้ยกฟ้องเพราะยกประโยชน์เเห่งความสงสัยเเต่หากปล่อยตัวจำเลยอาจเกิดความเสียหาย จำเลยมีพฤติการณ์ที่หากยกฟ้องโจทก์แล้วให้ปล่อยตัวจำเลยไปจำเลยอาจจะหลบหนีหากคดีมีการอุทธรณ์ฎีกากฎหมายจึงให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจมีคำสั่งขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์-ฎีกาได้ตรงนี้กฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่ใช่เป็นการขังฟรี.