ตรุษจีนคึกคัก
แห่ซื้อของไหว้
กทม.เชิญชวน
ลดเผาแก้ฝุ่นพิษ
ชาวไทยเชื้อสายจีน แห่ซื้อสินค้าเซ่นไหว้เทพเจ้า-บรรพบุรุษในวันจ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดทั่วไทยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ด้านผู้ว่าฯ กทม.ชวนลดเผากระดาษเงินกระดาษทอง ลดฝุ่น PM2.5
เมื่อวันที่ 27 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศวันจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ย่านเยาวราช กทม.ว่ามีบรรดาชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ เพื่อใช้ประกอบการเซ่นไหว้เทพเจ้าที่นับถือ และบรรพบุรุษ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน
ส่วนที่ จ.สงขลา ชาวไทยเชื้อสายจีน ต่างออกมาจับจ่ายซื้อเครื่องประดับตบแต่งบ้าน และอาหาร คาวหวาน รวมถึงผลไม้ ที่ต้องใช้ไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เช่นที่ร้านบุญมาพานิช เขตเทศบาลนครสงขลา ซึ่งจำหน่ายเครื่องประดับ และสิ่งของประกอบการไหว้เจ้าช่วงเทศกาลตรุษจีน มีประชาชนมาเลือกซื้อสิ่งของ โดยทางร้านได้มีการประดับตบแต่งรับเทศกาลดังกล่าวอย่างสวยงาม
ขณะเดียวกัน สำหรับตลาดสดสตาร์ ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง ตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ระยอง ปรากฏว่ามีชาวบ้านแห่กันมาซื้อสินค้าที่ต้องใช้ไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก โดยพ่อค้าแม่ค้า ระบุว่าขายดีทุกอย่าง อาทิ ผักกะหล่ำปลี ผักกาดขาว มีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 20-25 บาท ขณะที่หัวหมูต้ม หัวเล็กราคา 450 บาท ส่วนหัวใหญ่ราคา 600 บาท สำหรับผลไม้ทุกชนิด มีราคาแพงกว่าปีที่ผ่านมา เช่น กล้วย ราคาแพงขึ้น 10 บาทต่อหวี
ที่ จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการจับจ่ายซื้อสินค้าช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่ตลาดสดเทศบาล 2 เป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อหมู เป็ด ไก่ เพื่อเซ่นไหว้บรรพบุรุษ โดยราคาเป็ดพะโล้ อยู่ที่ตัวละ 400 บาท ไก่ต้ม 220 บาท หมูชิ้นเล็ก 150 บาท หมูชิ้นใหญ่ 300 บาท หัวหมู 700 บาท ส่วนผลไม้ อาทิ ส้มเขียวหวาน ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 40-60 บาท แอปเปิ้ล ราคาลูก 20 บาท ขนมเข่ง ขนมเทียน ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 6-8 บาท
ส่วนที่ จ.ตรัง บริเวณตลาดสดเทศบาลนครตรัง บรรยากาศในวันจ่ายของช่วงเทศกาลตรุษจีน มีชาวไทยเชื้อสายจีน ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างคึกคัก สอดคล้องกับที่รัฐบาลได้เริ่มโอนเงิน 10,000 บาท โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านผู้สูงอายุ เฟส 2 ให้ผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ในวันเดียวกันนี้ ทำให้ประชาชนมีเงินออกมาจับจ่ายซื้อของ แตกต่างจาก 2-3 วันก่อน ที่ค่อนเงียบเหงา
ที่ จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้าธนาคารกรุงไทย สาขาเบตง ได้มีกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งได้รับสิทธิในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจฯ ต่างนำบัญชีธนาคาร มาต่อแถวเข้าคิวปรับบัญชี เพื่อตรวจสอบดูว่ามียอดเงิน 10,000 บาท โอนเข้าบัญชีของตนเองแล้วหรือไม่ ประกอบกับเป็นวันจ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวบ้านต่างต้องนำเงินไปใช้จ่ายซื้อสิ่งของเพื่อเซ่นไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษ
ขณะที่บรรยากาศวันจ่ายที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กลับมาคึกคัก โดยปีนี้พบว่าราคาผลไม้มงคลมีการปรับราคาขึ้น แต่แผงขายผลไม้ต่างไม่ปรับขึ้นราคา เพราะเกรงว่าประชาชนจะไม่มีกำลังซื้อจากสภาวะเศรษฐกิจ โดยราคาส้มจีน ราคากิโลกรัมละ 100 บาท องุ่น กิโลกรัมละ 100 บาท ส้มโชกุน กิโลกรัมละ 70 บาท แอปเปิ้ลลูกใหญ่ ลูกละ 50 บาท สาลี่ฮ่องเต้จากจีน กิโลกรัมละ 100 บาท ลูกพลับสด 4 ลูก 100 บาท
อีกด้านหนึ่ง นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้เป็นสัปดาห์ของเทศกาลตรุษจีน ซึ่งชาวไทยเชื้อสายจีน นิยมประกอบพิธีไหว้เทพเจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีการจุดธูป เทียน เผากระดาษเงินกระดาษทอง รวมถึงการจุดประทัด ซึ่งอาจทำให้ค่าฝุ่น PM2.5 ใน กทม.สูงขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงสภาพอากาศแห้ง จึงเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.มีความห่วงใยพี่น้องประชาชน จึงลงนามในประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง มาตรการป้องกันอันตรายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2568 เตรียมความพร้อมในการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเป็นไปตามแผนปฏิบัติการฯ ช่วงเทศกาลตรุษจีน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี