‘โฆษก ปปง.’เผยคดีแพ่งยึดอายัดทรัพย์เดินหน้าต่อ แม้ศาลยกฟ้อง‘ตู้ห่าว’

‘โฆษก ปปง.’เผยคดีแพ่งยึดอายัดทรัพย์เดินหน้าต่อ แม้ศาลยกฟ้อง‘ตู้ห่าว’

วันพุธ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 13.30 น.

‘โฆษก ปปง.’เผยคดีแพ่ง‘ตู้ห่าว’และพวก‘ฟอกเงิน’ ยึดอายัดรวม 117 ล้าน ยังเดินหน้าต่อ แม้ศาลอาญายกฟ้อง ระบุ‘ตู้ห่าว’สามารถนำคำพิพากษายกฟ้อง ยื่นคัดค้านต่อ‘ศาลแพ่ง’ว่าทรัพย์ ไม่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด แต่พยานหลักฐานต้องมีน้ำหนักรับฟังได้เพียงพอ

12 กุมภาพันธ์ 2568 จากกรณีศาลอาญากรุงเทพใต้ ยกฟ้องนายชัยณัฐร์ หรือ “ตู้ห่าว” กับ พ.ต.อ.หญิง อดีตภรรยาของตู้ห่าว และพวก รวม 19 ราย ในคดีบุกจับผับจินหลิง ในข้อหา “ยาเสพติด-ฟอกเงิน-องค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ” แต่ลูกน้องอีก 6 ราย ถูกดำเนินคดีจำคุก เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น


นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในฐานะโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. กล่าวถึงมาตรการยึดและอายัดทรัพย์คดีดังกล่าว ว่า สำหรับคดีอาญากับคดีแพ่ง แยกเป็นคนละส่วนกัน แม้คดีอาญาศาลจะยกฟ้อง แต่คดีแพ่งเกี่ยวข้องกับทรัพย์สิน ซึ่งศาลแพ่งมีกฎหมายคนละฉบับ ไม่ผูกติดกัน จึงไม่ใช่หมายความว่าคดีอาญายกฟ้องและคดีแพ่งจะยกฟ้องตามไปด้วย โดยศาลแพ่งจะมีการพิจารณาพฤติการณ์อย่างอื่นมาประกอบด้วย เช่น การสืบสวนของตำรวจ หรือ การทำเป็นเครือข่ายมีหลายบุคคลมาเกี่ยว ข้อง หรือ การทำธุรกรรม เพราะคดีแพ่งจะดูในตัวทรัพย์สินเป็นหลักไม่ได้มองเฉพาะบุคคลว่าทรัพย์นั้นได้มาอย่างไร

“เจ้าของทรัพย์สามารถนำผลคดีของศาลอาญามาใช้ประโยชน์ในคดีแพ่ง หรือคดีทางทรัพย์สินว่าไม่ได้กระทำความผิดในคดีมูลฐาน แต่ศาลแพ่งก็ไม่ได้รับฟังเฉพาะว่าคนนั้นจะต้องถูกลงโทษทางอาญาหรือไม่เพราะต้องดูเหตุผลอื่นประกอบ อย่างไรก็ตาม คดียึดและอายัดทรัพย์ “ตู้ห่าวกับพวก” ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาชั้นศาลแพ่งในขณะนี้” นายวิทยา กล่าว

นายวิทยา กล่าวว่า การดำเนินการในคดีอาญา คือการกล่าวโทษบุคคลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม หรือเป็นการนำผู้กระทำผิดเข้าเรือนจำ เพราะก็ต้องมีหลักฐานว่าบุคคลนั้น ๆ ได้กระทำความผิดจริง จึงแตกต่างจากมาตรการทางแพ่งของ ปปง. ที่ดูว่าทรัพย์สินดังกล่าวมันเกี่ยวข้องกับพฤติการณ์เรื่องการค้ายาเสพติดหรือไม่ จึงขอยืนยันว่า แม้ว่าในคดีมูลฐาน ศาลจะมีการยกฟ้องจำเลย แต่ในคดีทางแพ่ง ไม่ได้หมายความว่าการดำเนินการกับทรัพย์สินจะต้องถูกยกไปด้วย

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ส่วนสิ่งที่จะทำได้ภายหลังคดีมูลฐานถูกยกฟ้องนั้น คือ หากบุคคลที่เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้คัดค้านถูก ปปง. มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินไว้ ก็อาจนำส่วนที่ศาลอาญายกฟ้องมาใช้ประโยชน์ หรือจะนำพยานหลักฐานใดมาใช้ต่อสู้ในคดีแพ่งก็ได้ ว่าทรัพย์สินที่ ปปง. ได้ยึดและอายัดไว้นั้นไม่ใช่ทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีมูลฐาน โดยศาลแพ่งจะต้องดูด้วยว่าเหตุผลที่ถูกยกฟ้องในคดีอาญา รวมถึงสิ่งที่ผู้คัดค้านได้นำเสนอเข้ามามันมีความเพียงพอที่จะรับฟัง ทำให้ต้องยกในส่วนแพ่งไปด้วยหรือไม่ และหากรับฟังได้ ศาลแพ่งก็จะยกคำร้องของ ปปง. และของพนักงานอัยการ ทั้งนี้ จึงไม่ใช่การยกตามกันโดยอัตโนมัติ แต่มันแยกขาดจากกันระหว่างคดีอาญาและคดีแพ่ง ซึ่งศาลแพ่งต้องมีการชั่งน้ำหนักดูพยานหลักฐานประกอบการพิจารณา

ยกตัวอย่างเช่น นาย ก. (นามสมมติ) นาย ข. (นามสมมติ) และนาย ง. (นามสมมติ) เคยมีประวัติพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด แม้ทั้งหมดไม่เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาก่อนก็เป็นได้ แต่เมื่อศาลได้รับฟังจากพนักงานสอบสวน จนเห็นว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวกับยาเสพติดเกิดขึ้น ก็มาดูต่อว่าเมื่อมันเกี่ยวกับพฤติการณ์การกระทำความผิดมูลฐานเกิดขึ้นแล้ว ทรัพย์สินดังกล่าวนั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดมูลฐานหรือไม่ ถ้าใช่ ศาลก็จะสั่งให้ทรัพย์นั้นตกเป็นของแผ่นดิน แต่ถ้าไม่ใช่ ศาลก็จะยกไป

“สำหรับคดีแพ่ง หรือการดำเนินการกับทรัพย์สินของนายตู้ห่าว และพวก ยังคงอยู่ระหว่างกระบวนการของศาลแพ่ง กล่าวคือ ทรัพย์สินของพวกเขายังถูกยึดและอายัดตามกฎหมายของ ปปง.” นายวิทยา กล่าว

สำนักงาน ปปง. ได้สรุปข้อมูลการยึดและอายัดทรัพย์สินรายนายชัยณัฐร์ หรือตู้ห่าว กับพวก ว่า รายคดีนายชัยณัฐร์ เป็นกรณีกระทำความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติดและความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรม ซึ่งมีพฤติการณ์สืบเนื่องจากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นสถานบริการจินหลิง และพบพฤติการณ์จำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการและมีการสืบสวนขยายผลพบว่านายชัยณัฐร์ เป็นเจ้าของสถานบริการ โดยคณะกรรมการธุรกรรมได้มีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่ในกรณีดังกล่าวมาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 (ตามคำสั่งที่ ย.93/2566 และ ย.141/2566) ดำเนินการกับทรัพย์สินรวมจำนวน 68 รายการ มูลค่ากว่า 71 ล้านบาท และในปี พ.ศ. 2567 มีการยึดและอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกจำนวน 46 รายการ เช่น หลักทรัพย์ในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ เงินในบัญชีเงินฝาก หน่วยลงทุน พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 46 ล้านบาท (คำสั่งที่ ย.176/2567) รวมทรัพย์สินที่ยึดและอายัดในกรณีนี้ทั้งสิ้น 114 รายการ มูลค่ากว่า 117 ล้านบาท

ส่วนรายละเอียดผลการดำเนินการ ในกรณีดังกล่าว ประกอบด้วย 1.อายัดทรัพย์สินตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.93/2566 ลงวันที่ 2 พ.ค.66 จำนวน 15 รายการ และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการพิจารณา ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดินตามคดีหมายเลขดำ ที่ ฟ.113/2566 คดีหมายเลขแดง ที่ ฟ.118/2567 (ครบกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ในวันที่ 1 มี.ค.68)

2.ยึดและอายัดทรัพย์สิน (เพิ่มเติม) ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.141/2566 ลงวันที่ 8 ส.ค.66 จำนวน 53 รายการ และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ตามคดีหมายเลขดำ ที่ ฟ.169/2566 ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง (นัดอ่านคำพิพากษาเดือน พ.ค.68)

3.ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ตามคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.176/2567 ลงวันที่ 18 ก.ย.67 จำนวน 46 รายการ และส่งเรื่องให้พนักงานอัยการได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลแพ่ง ซึ่งจะนัดสืบพยานเดือน มี.ค.68

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top