วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
จับ29แก๊งคอลฯ‘ท่าขี้เหล็ก’  เมียนมาลุยหลังไทยกดดัน

จับ29แก๊งคอลฯ‘ท่าขี้เหล็ก’ เมียนมาลุยหลังไทยกดดัน

วันอาทิตย์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ท่าขี้เหล็ก
  •  

จับ29แก๊งคอลฯ‘ท่าขี้เหล็ก’

เมียนมาลุยหลังไทยกดดัน

“ตำรวจท่าขี้เหล็ก” เมียนมา ลุยจับยกแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบซุ่มเงียบในเขตสันทราย เมืองท่าขี้เหล็ก 29 คน เป็นชาวเมียนมา 22 คน ชาวไทย 7 คน หลังถูกไทยกดดันอย่างหนักขณะที่ ไทย-เมียนมา ประชุม TBCหารือแนวทางการช่วยเหลือเหยื่อคอลเซ็นต์เตอร์และการค้ามนุษย์

เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 มีรายงานจาก สำนักข่าว Tachileik News Agency แจ้งว่าช่วงคืนวันที่ 12- 14 ก.พ.ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้ปราบปรามการเปิดบ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย รวมถึงจับกุมขบวนการหลอกลวง หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้บุคคลและของกลางเป็นจำนวนมากในเขตสันทรายภายในตัวเมืองท่าขี้เหล็ก โดยมีผู้ถูกจับกุมจำนวน 29 คน เป็นชาวเมียนมา 22 คน และชาวไทย 7 คน


โดยกลุ่มแรกถูกจับจำนวน 16 คน หลังจากเปิดอาคารในเขตดังกล่าวเป็นบ่นอการพนันออนไลน์ เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมตัวได้ทั้งหมดแล้วได้ตรวจสอบของกลางพบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปจำนวน 61 เครื่อง, เครื่องคอมพิวเตอร์ 329 เครื่อง, ระบบ CPU จำนวน 90 อัน, โทรศัพท์มือถือจำนวน 90 เครื่อง รถยนต์จำนวน 2 คัน และกลุ่มที่ 2 ถูกจับกุมภายในบ้านพักหลังหนึ่ง

โดยรายที่ 2 นี้พบมีคนอยู่ภายในจำนวน 13 คน เป็นคนไทยจำนวน 7 คน ที่เหลือเป็นชาวเมียนมาที่มีทั้งชายและหญิง สามารถยึดของกลางเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 50 เครื่อง โทรศัพท์มือถือจำนวน 300 เครื่อง เอกสารต่างๆ ซึ่งธุรกิจมืดนี้ถูกระบุว่าเป็นของชาวต่างชาติที่อาศํยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน

สำหรับการปราบปรามของทางการเมียนมาดังกล่าวมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังจากทางการไทยได้งดส่งกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และอินเตอร์เน็ต ที่เคยผ่าน 5 ช่องทางคือที่ อ.แม่สอด จ.ตาก 2 จุด,จ.กาญจนุบรี 1 จุด และที่ อ.แม่สาย 2 จุด เพื่อกดดันหรือตัดวงจรแก๊งหลอกลวงต่างๆ

วันเดียวกัน พล.ต.ไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 4 /ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร เดินทางมาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี) Township Border Committee-Thai land–Myanmar - TBC. โดยมี พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ในฐานะประธาน TBC ฝ่ายไทย และ พ.ท.ซอฮันอุน ผู้บังคับกองพัน ร.275 เมียวดี ในฐานะประธาน TBC ฝ่ายเมียนมา พร้อมคณะกรรมการ TBC แม่สอด-เมียวดี เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด จ.ตาก พ.ต.อ.ศราวุธ แผลงปัญญา รองผู้บังคับการอำนวยการ ตำรวจภูธร ภาค 6. รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่สอด-พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ศรีชัยชนะ ผู้กำกับการตำรวจตระเวณชายแดนที่ 34 (ค่ายพระเจ้าตาก)- ผู้แทนผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหหวัดตาก(ด่านแม่สอด)- ทหารกองกำลังนเรศวร-ฝ่ายปกครอง-หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม พร้อมคณะกรรมการ TBC ฝ่ายเมียนมา จ.เมียวดี ที่ห้องประชุมหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก

รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุม ร่วมกันของคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย–เมียนมา (แม่สอด-เมียวดี) Township Border Committee-Thai land–Myanmar - TBC. เพื่อวางแผนการปฎิบัติการร่วมกัน พร้อมหารือแนวทางการช่วยเหลือ เหยื่อคอลเซ็นต์เตอร์และการค้ามนุษย์ ที่ฝั่งสหภาพเมียนมา ในการช่วยเหลือเดินทางมายังฝั่งไทย ต่อไป

ทางด้าน พล.ต.ธนาธิป สว่างเเสง โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ร่วมหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) , พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) , พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าร่วมประชุม ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหารือถึงการเสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ และปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงที่คุกคามชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

โดยในที่ประชุมได้มีการพูดคุยถึงแนวทางการบูรณาการกำลังพลและทรัพยากรของกองทัพ เพื่อสนับสนุนมาตรการของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมามาตรการการตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิง-ตัดไฟ-สัญญานอินเทอร์เน็ต ถือเป็นมาตรการที่เด็ดขาดและได้ผล โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอเร่งรัดคณะกรรมการนโยบายด้านชายแดนให้ขยายแผนการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และขอให้รายงานกลับมาอีกครั้งในเวลา 1 เดือน

จากผลการดำเนินดังกล่าวข้างต้นเป็นผลทำให้การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ การพนันผิดกฎหมาย การหลอกลวงทางคอลเซ็นเตอร์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากความร่วมมือของประเทศเพื่อนบ้านที่มีนโยบายที่เด็ดขาดต่อกลุ่มอาชญากรรมที่ผ่านมา

โดยนายภูมิธรรม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานอย่างที่เต็มที่ และขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนในการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ทั้งเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ที่ร่วมกันแก้ปัญหาต่างๆ จนทำให้ปัญหาต่างๆ สามารถคลี่คลายไปได้ด้วยดี พร้อมกับฝากความห่วงใยไปถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านขอให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวังไม่ประมาท และขอเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน โดยรัฐบาลจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขให้ปัญหาหมดไปโดยเร็ว

นอกจากนี้ รองนายกและรมว.กลาโหม ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงกลาโหมพร้อมสนับสนุนมาตรการรัฐบาลในการแก้ไขการก่ออาชญกรรมข้ามชาติ รวมถึงการประสานความร่วมมือขยายแผนการทำงานของคณะกรรมการนโยบายด้านชายแดน เพื่อปิดช่องโหว่ของขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดไป โดยจะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับคนไทยทุกคน ส่วนการส่งตัวบุคคลต่างชาติที่ถูกหลอกลวงและค้ามนุษย์ กลับไปยังประเทศต้นทางที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือที่ดีจากทุกฝ่าย รวมถึงกองกำลังป้องกันชายแดน ซึ่งคนเหล่านี้จะเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอน พร้อมมีการซักถามประวัติรายละเอียดต่างๆ เพื่อบันทึกจัดทำเป็นฐานข้อมูลในไปสู่การแก้ปัญหาในระยะยาวต่อไป

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'จเรตำรวจฯ\'หารือ\'ตร.ไซเบอร์อินเดีย\' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า 'จเรตำรวจฯ'หารือ'ตร.ไซเบอร์อินเดีย' พบคดีคอลเซ็นเตอร์มากกว่าไทยเกือบ 10 เท่า
  • จเรฯร่วมถกแก้ปัญหาแก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์ จเรฯร่วมถกแก้ปัญหาแก๊งคอลฯ-ค้ามนุษย์
  • อายัดทัน 2 ล้าน! แก๊งคอลตุ๋นอดีตข้าราชการสูญ 3.9 ล้าน พร้อมส่งเงินคืนผู้เสียหาย อายัดทัน 2 ล้าน! แก๊งคอลตุ๋นอดีตข้าราชการสูญ 3.9 ล้าน พร้อมส่งเงินคืนผู้เสียหาย
  • รวบ2คนไทยจัดหาบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวบ2คนไทยจัดหาบัญชีม้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
  • บุกช่วยนักศึกษาเภสัชฯ เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จัดฉากหลอกเรียกค่าไถ่ 4.5 แสน บุกช่วยนักศึกษาเภสัชฯ เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จัดฉากหลอกเรียกค่าไถ่ 4.5 แสน
  • \'ดีอี\'ผนึกกำลังพันธมิตร 16 หน่วยงาน ผลักดันแพลตฟอร์ม\'DE-fence\'สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 'ดีอี'ผนึกกำลังพันธมิตร 16 หน่วยงาน ผลักดันแพลตฟอร์ม'DE-fence'สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์
  •  

Breaking News

'สพฐ.' แจ้งสถานศึกษาไม่ตื่นตระหนกข่าวลือ 'โควิด' ย้ำไม่ประมาท

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved