รอง ผบ.ตำรวจไซเบอร์ เผยการคัดแยกเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 260 คน ที่ถูกส่งจากเมียวดีกลับมายังไทยแล้ว พบมีเหยื่อจริง 4-5 ราย ที่เหลือยินยอมเดินทางมาทำหน้าที่หลอกลวงคนทั้งโลก แต่พอถูกส่งกลับไปดำเนินคดีจะร้องไห้ปั้นเรื่องว่าตัวเองก็ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

19 ก.พ.68 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รองผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยถึงการคัดแยกเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 260 คน ที่ถูกส่งจากเมียวดี ประเทศเมียนมา มายังประเทศไทย ว่าขณะนี้เข้าสู่กระบวนการกลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM มีการคัดกรองโดยสหวิชาชีพ และมีหลายหน่วยงานเข้าไป พร้อมบอกว่าคนเหล่านี้เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ จึงอยากทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า กลุ่มคนที่กลับมายินยอมจะเดินทางไปเพื่อไปทำหน้าที่หลอกลวงคนทั่วโลก เมื่อถูกส่งกลับมาอาจต้องถูกดำเนินคดี จึงทำให้เกือบทั้งหมดจะร้องไห้ ปั้นเรื่องว่าตัวเองเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ ตำรวจมีการขยายผล เช่น ตรวจสอบกล้องวงจรปิดว่าเดินทางเข้ามาอย่างไร ขณะนี้มีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าคนที่เป็นเหยื่อจริงๆ มี 4-5 ราย ยอมรับว่ามีเหยื่ออยู่จริง แต่น้อยมาก ส่วนภาพรวมที่จะส่งมาเชื่อว่าเป็นพวกสแกมเมอร์จริงๆ

ด้านพล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีภายหลังประชุมกับตัวแทนสถานทูต 18 ประเทศ และ 2 หน่วยงาน เกี่ยวกับการกำหนดการคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์จากประเทศเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านว่า ขณะนี้ตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศจะเป็นตัวกลาง ในการพูดคุยกับทางการประเทศเมียนมา ซึ่งเชื่อว่าหากการคัดกรองเกิดขึ้น ในประเทศเมียนมาจะสามารถทำให้การเก็บพยานหลักฐานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเป็นพื้นที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.ธัชชัย ยืนยันว่า จะดูแลผู้เสียหายจากกระบวนการค้ามนุษย์ หากประเทศใดร้องขอความช่วยเหลือ หรือขอให้ไทยเป็นตัวกลางในการส่งกลับประเทศก็ยินดีให้ความร่วมมือ ส่วนกรณีที่มีรายข่าวว่าในวันพรุ่งนี้ (20 ก.พ.) ทางการเมียนมาจะส่งตัวเหยื่อมาอีก 500 คนนั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องดังกล่าว และยังไม่ชัดเจนว่า ทั้งหมดที่เข้ามาจะเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง NRM ที่เมียนมาหรือไม่ หากข้ามมาแล้ว ขณะนี้พื้นที่ที่สามารถรับรองและคัดกรองผู้ที่จะข้ามมาได้ทั้งหมดประมาณ 500 คน