“โสภณ ซารัมย์” เดินหน้า“รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” ชี้เด็กเยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้า เลียนแบบจากผู้ใหญ่ ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี

วันนี้ (7 มี.ค.68 ) มูลนิธิอาณัตพณ ซารัมย์ (ลูกเติ้ง) ร่วมกับส่วนราชการ ในอำเภอลำปลายมาศ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หมู่บ้าน และวัด เดินหน้าโครงการ “รวมพลังรักศรัทธา แก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ” ในเขตพื้นที่อำเภอลำปลายมาศ โดยมีนายโสภณ ซารัมย์ ประธานกรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายศักดิ์ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย , พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.ลำปลายมาศ, หัวหน้าส่วนราชการ, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ ผู้นำชุมชน เข้าร่วม รับผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ต.หนองกะทิง , ต.ผไทรินทร์ , ต.บ้านยาง และ ต. หนองโดน อ.ลำปลายมาศ จำนวน 100 คน เข้ารับการบำบัด ณ ศูนย์รักศรัทธาต้านยาเสพติดแบบบูรณาการ วัดจันทราวาส อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

โดยผู้เสพยาเสพติด ได้สมัครใจเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ใช้ยาเสพติด ซึ่งมีการนิมนต์ พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งนายโสภณ ซารัมย์ ได้นำผู้เข้าค่ายบำบัดฯ กล่าวคำปฏิญาณตั้งสัจจะอธิษฐานต่อหน้าพระพุทธรูป และพระสงฆ์ ว่า จะลดละเลิก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภทโดยสิ้นเชิง และสมัครใจเข้าฝึกอบรม ที่ศูนย์รักศรัทธาต้านยาเสพติด วัดจันทราวาส เป็นระยะเวลา 7 วัน 7 คืน ซึ่งจะใช้การอบรมธรรมะ รักษาศีล 5 สร้างความมั่นคงด้านจิตใจไม่ให้ผู้เสพหวนกลับไปใช้ยาเสพติด

พร้อมฝึกทักษะวิชาชีพ เพื่อให้สามารถนำไปประกอบอาชีพมีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้โดยสุจริต พร้อมให้โรงพยาบาลลำปลายมาศ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนมาให้ความรู้และแนะนำในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้เสพสามารถเลิกใช้สารเสพติดได้ อีกทั้งยังให้ความรู้ข้อกฎหมายและโทษภัยยาเสพติด รวมถึงจัดให้มีการแข่งขันกีฬา เพื่อสร้างความสามัคคี ด้วย

ทั้งนี้ อำเภอลำปลายมาศ เป็นอำเภอแรกของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้บำบัดผู้เสพยาเสพติด ครบ ทั้ง 16 ตำบลซึ่งมีผู้เสพยาเสพติดเข้าร่วมบำบัดฟื้นฟูฝึกอบรม มาอย่างต่อเนื่องแล้ว 4 รุ่น รวมทั้งทั้งสิ้นการบำบัดของโครงการนี้มี จำนวน 532 คน หลังจากการบำบัดแล้วจะมีการติดตามของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทุก 7 วันจะต้องมารายงานตัวเพื่อตรวจสอบหาสารเสพติด จนครบ 120 วัน

จากสถิติพบว่า มีผู้มารายงานตัวร้อยละ 76.36 ผลการตรวจ ปัสสาวะไม่พบสารเสพติดร้อยละ 78 .34 กลับไปเสพซ้ำร้อยละ 21.65 และไม่มารายงานตัวร้อยละ 4.92 สำหรับผู้ที่ไม่มารายงานตัว ปฏิเสธการบำบัด ทางโรงพยาบาลลำปลายมาศ ได้จัดส่งข้อมูลให้สถานีตำรวจภูธรอำเภอลำปลายมาศและสถานีตำรวจภูธรทะเมนชัย พิจารณาดำเนินการตามกฏหมายต่อไปแล้ว

นายโสภณ  ได้กล่าวถึงโครงการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพสารเสพติด นอกจากบำบัดผู้เสพยาบ้า ยังมีกลุ่ม นักเรียนเยาวชนจำนวนหนึ่งที่หันไปเสพน้ำกระท่อมและสูบบุหรี่ไฟฟ้าจนติด เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จนไม่สามารถเรียนต่อได้และเสียการเรียน ขณะนี้ ทางโครงการรวมพลังรักศรัทธาแก้ปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ได้จัดทำโครงการเข้าค่ายของนักเรียนและเยาวชนในช่วงปิดภาคเรียนนี้  โดยจะเอานักเรียนกลุ่มเสี่ยงมาเข้าค่ายที่โรงเรียน โดยมีหลักสูตรการให้ความรู้เรื่องสุขภาพ  และจัดครูสอนเพิ่มเติมสำหรับนักเรียนที่มีผลการเรียนไม่ดี ตลอดทั้งจัดกิจกรรมการกีฬา เพื่อส่งเสริมสุขภาพ

ทั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากโรงเรียน คณะครู และผู้ปกครอง องค์การบริหารปกครองส่วนท้องถิ่น และฝ่ายปกครอง ส่งวิทยากรมาให้ความรู้ นอกจากนั้น ยังมีอาสาเฉพาะกิจรักศรัทธาต้านยาเสพติด และทางสถานศึกษาได้จัดตั้งสารวัตรนักเรียน มาช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย

นายโสภณ ยังกล่าวถึงปัญหาการ ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาว่า การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุดก็คือ การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่กลุ่มนักเรียนและเยาวชน โดยการให้ความรู้และตระหนักถึงภัยอันตราย อีกประการหนึ่งกลุ่มเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ ถือว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นแฟชั่นทันสมัยโก้หรู โดยเลียนแบบจากผู้ใหญ่ในสังคม ฉะนั้นผู้ใหญ่ ต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี