ศึกเลือกตั้งนายกเล็ก-สท.เทศบาลนคร‘เมืองย่าโม’คึกคัก เทวัญ-อัสนี เชิดชัย ลูกชาย‘เจ๊เกียว’เจ้าแม่รถทัวร์ พา‘หมอวรรณรัตน์’จากพรรคชาติพัฒนา เดินหาเสียงในตลาดหัวรถไฟ ชู 2 นิ้วให้เลือกเบอร์ 2 ขณะที่‘ช่อ พรรณิการ์’นำทัพพรรคประชาชนหาเสียง

20 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครนครราชสีมา (สท.) ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 บรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงของผู้สมัครเป็นไปอย่างเข้มข้น โดยเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังก่อนโค้งสุดท้าย

ในส่วนของนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา , นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา นำผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เบอร์ 2 นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรมว.พลังงาน และอดีตรมว.อุตสาหกรรม กลุ่มโคราชชาติพัฒนา พร้อมผู้สมัคร สท. เขต 1 เบอร์ 7-12 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดหัวรถไฟ ชุมชนเสาสูง พบปะพี่น้องประชาชนที่กำลังเดินจับจ่ายซื้อสินค้าและอาหาร พร้อมแจกแผ่นพับแนะนำนโยบายของกลุ่มโคราชชาติพัฒนาที่ชี้แจงผลงานที่ผ่านมา 4 ปี ในฐานะแชมป์เก่าและนำเสนอนโยบายใหม่ที่จะทำสานต่อในอีก 4 ปีข้างหน้า หากได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวเทศบาลนครนครราชสีมาอีกครั้ง

ทั้งนี้ มีนายอัสนี เชิดชัย เจ้าของตลาด และลูกชาย “เจ๊เกียว” ดร.สุจินดา เชิดชัย พี่ชายนายสุรวุฒิ เชิดชัย อดีตนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา ร่วมแนะนำและสนับสนุน เบอร์ 2 เป็นนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา และยังได้กล่าวฝากพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พร้อมชู 2 นิ้ว ว่า ให้เลือกเบอร์ 2 เอาคนเข้าไปทำงานเพื่อบ้านเรา จากนั้นได้เดินทางไปเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนอุบลรัตน์ นครราชสีมา โดยมีพี่น้องประชาชนหลายชุมชน แฟนคลับ FC กว่า 1,000 คนร่วมรับฟังนโยบาย       

นายเทวัญ กล่าวว่า พรรคชาติพัฒนามีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนาเทศบาลนครนครราชสีมาต่อไปเพื่อสานต่อนโยบายเดิมที่ทำไว้โดยเฉพาะการวางระบบน้ำประปาใหม่หมดทั้งเมือง เนื่องจากของเดิมเป็นท่อเก่ามีอายุการใช้งานมานาน และเกิดปัญหาท่อแตกอยู่เป็นประจำ ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลมารอไว้แล้ว เพื่อแก้ปัญหาน้ำประปาขาดแคลน

นอกจากนี้การแก้ปัญหาขยะที่จะต้องเร่งดำเนินการทันที ตลอดจนปัญหาน้ำท่วมขังที่มีการแก้ไปแล้วส่วนหนึ่งซึ่งจะต้องดำเนินต่อให้แล้วเสร็จ นอกจากนี้การพัฒนาภูมิทัศน์และสิ่งแวดล้อมของเมือง การแก้ปัญหาจราจร ตลอดจนการฟื้นเศรษฐกิจ การสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนและการสร้างจุดเด่นหรือแลนมาร์คของเมืองเพื่อดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวเมืองโคราช เป็นต้น

ขณะที่พรรคประชาชน “ช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ สส.นครราชสีมา พรรคประชาชน นำผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เบอร์ 1 นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ พร้อมด้วยผู้สมัคร สท.เบอร์ 1 - 6 พรรคประชาชน ลงพื้นตลาดหลักเมือง เดินแจกแผ่นพับแนะนำตัวและนโยบายการหาเสียง ให้กับพ่อค้าแม่ค้า พี่น้องประชาชนที่กำลังจ่ายตลาด โดยมีบรรดาแฟนคลับ FC แห่ขอภาพภาพคู่คึกคัก

ทั้งนี้ พรรคประชาชน มีจุดลงพื้นที่สำคัญหลายแห่งในเขตเมือง อาทิ ตลาดหลักเมือง , ตลาดหัวรถไฟ , เดอะมอลล์โคราช , ตลาดเทศบาล 5 , ตลาดเคหะ และตลาดเซฟวัน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนให้การต้อนรับแน่นขนัด พร้อมด้วยกำลังใจจากนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.เขต 1 นครราชสีมา พรรคประชาชน ซึ่งเป็นน้องชายของนายพงษ์ยุทธ ร่วมลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวถึงความท้าทายของการเลือกตั้งท้องถิ่นในเมืองใหญ่อย่างโคราช ว่า แม้ประชาชนจำนวนมากจะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งระดับชาติ แต่กลับไม่ตระหนักว่าการเลือกตั้งเทศบาลนั้นส่งผลโดยตรงต่อชีวิตประจำวัน และผู้ชนะจะได้ใช้งบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นเงินภาษีของประชาชน

“คนมักจะขับรถกลับบ้านเพื่อเลือกตั้ง สส. แต่ไม่รู้เลยว่าการเลือกตั้งเทศบาลก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะนายกเทศมนตรีจะบริหารเงินเกือบหมื่นล้านในสี่ปี ถ้าคุณคิดว่าเงิน 1,700 ล้านสำคัญ ก็ต้องกลับมาเลือกคนที่มีวิสัยทัศน์และไม่โกง” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวอีกว่า เทศบาลนครโคราชเป็นหนึ่งในเทศบาลที่ร่ำรวยที่สุดของประเทศ แต่หลายคนไม่รู้ถึงศักยภาพทางงบประมาณ เนื่องจากไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน พร้อมย้ำว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นจากประชาชนที่ตื่นตัวและออกมาใช้สิทธิ์ ไม่ใช่แค่หวังปาฏิหาริย์จากตัวผู้สมัคร ในวันนี้พรรคประชาชนเองก็ถือว่าเป็น “เจ้าถิ่น” เช่นกัน เพราะมี สส.เขตเมืองครบทั้ง 3 คน เราไม่เชื่อในความเป็นเจ้าของพื้นที่ของนักการเมือง เพราะเจ้าของที่แท้จริงคือตัวประชาชนต่างหาก

ด้านนายพงษ์ยุทธ ระบุว่า ทีมงานของตนเป็นหน้าใหม่ แต่ประสบการณ์ไม่ใหม่ ที่มีทั้งความหลากหลายทางอาชีพและวัยวุฒิ พร้อมนำเสนอแนวคิดและแนวทางบริหารรูปแบบใหม่สู่เมืองโคราช ซึ่งปัญหาหลักที่พบจากการลงพื้นที่ตลอด 2 เดือน มี 2 เรื่องที่ประชาชนสะท้อนมากที่สุดคือปัญหาน้ำประปา ซึ่งยังคงมีท่อแตกและระบบไม่เสถียร และปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยทีมของตนให้ความสำคัญกับการสร้างความคึกคักทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อให้โคราชมีชีวิตชีวา ประชาชนให้กำลังใจเสมอ และขอให้เราสู้เต็มที่ เราก็จะทำให้ดีที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโอกาสของการเปลี่ยนแปลง  //-005