จากหลากหลายเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา ได้สร้างความเสียหาย สร้างความบอบช้ำทางร่างกายและจิตใจให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ลอบยิงผู้นำศาสนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส รวมถึงเหตุการณ์ลอบยิงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.แว้ง และเหตุระเบิดบริเวณแฟลตตำรวจ สภ.โคกเคียน จ.นราธิวาส และล่าสุดกับเหตุการณ์ที่สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับพี่น้องประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก คือเหตุการณ์ลอบยิงสามเณร ขณะเดินทางเพื่อไปออกบิณฑบาต ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา จนมรณภาพ
วันนี้ (22 เมษายน 2568) เวลา 17.00 น.ที่ห้องรับรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เปิดพื้นที่ให้พี่น้องสื่อมวลชนได้เข้าสัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นความรุนแรงในห้วงที่ผ่านมา
เริ่มต้นจากกรณีลอบยิงผู้นำศาสนาในพื้นที่ จ.นราธิวาส นายอับดุลรอนิง ลาเต๊ะ อายุ 60 ปี ซึ่งมีกลุ่มขบวนการฝ่ายตรงข้ามพยายามบิดเบือนข้อมูล ให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่รัฐมีหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดที่นำไปสู่การละเมิดกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชน หน้าที่หลักของหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ การควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุความรุนแรง พร้อมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้กระทำผิด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
สำหรับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดช่วง 2 สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายน 2568 นั้น แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่ทุกเหตุการณ์จะมีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในแต่ละกรณี ล้วนมีเป้าหมายไปยังพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง ไม่ว่าจะเป็นกรณีลอบยิงอุสตาซ เหตุระเบิดบริเวณ สภ.โคกเคียน หรือการลอบยิงสามเณรระหว่างเดินทางออกไปบิณฑบาต ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความหวาดกลัว และทำลายความสันติสุขของสังคมในวงกว้าง
สถานการณ์ในขณะนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของฝ่ายตรงข้ามในการยกระดับการก่อเหตุ เพื่อสร้างแรงกดดันและบ่อนทำลายความสันติสุขในพื้นที่ แม่ทัพภาคที่ 4 จึงขอให้ประชาชนเข้าใจถึงกลไกของขบวนการดังกล่าว และร่วมมือกับภาครัฐในการเฝ้าระวัง และปกป้องชุมชนของตนเองอย่างใกล้ชิด
สุดท้ายนี้ อยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยืนยันว่าจะทำงานอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัย สู่การสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี